วันนี้ (8 มิ.ย. 66) นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า กรมการปกครองได้รับแจ้งเบาะแสจากองค์กรทำงานด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้แก่ มูลนิธิ Destiny Rescue ร่วมกับ มูลนิธิ Imanuel foundation (IMF) และมูลนิธิรณสิทธิ์ ที่ได้สืบพบว่า ร้าน My tirak Bar และร้าน My tirak pub ตั้งอยู่บริเวณซอยลอยเคราะห์ ซอย 3ก ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีการแอบแฝงนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายบริการทางเพศให้แก่ลูกค้าชาวต่างชาติ จึงได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง (ศกปค.) สำนักการสอบสวนและนิติการ เข้าดำเนินการสืบสวนร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ส่งสายลับลงพื้นที่เพื่อทำการสืบสวนร้านดังกล่าว ซึ่งพบว่ามีการเปิดเป็นร้านบาร์-อะโกโก้ แอบแฝงการขายบริการทางเพศเด็กจริง อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายและศีลธรรมที่เข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์
“ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครองได้วางแผนบูรณาการร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองเชียงใหม่ สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ และมูลนิธิทั้ง 3 แห่ง เข้าให้การช่วยเหลือผู้เสียหายและจับกุมผู้กระทำความผิด เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 มิ.ย. 66) โดยแบ่งกำลังเป็น 2 ชุด โดยชุดที่ 1 ได้เข้าตรวจสอบสถานประกอบการทั้ง 2แห่ง ร้าน “My tirak Bar” และ ร้าน “My tirak pub” พบว่ามีผู้แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้านฯ และจากการตรวจสอบยังพบว่า นอกจากมีการแฝงขายบริการทางเพศเด็กแล้ว ร้าน My tirak pub ยังเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ทำการจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดี และชุดที่ 2 เจ้าหน้าที่เข้าทำการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ภายในโรงแรมบริเวณใกล้เคียง สามารถช่วยเหลือผู้เสียหาย ได้จำนวนทั้งสิ้น 3 คน ซึ่งได้พาตัวไปเข้าสู่กระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism : NRM) เพื่อคัดกรอง และคัดแยกโดยสหวิชาชีพ หลังจากนั้นทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำผู้เสียหายเข้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเยียวยา ฟื้นฟูสภาพจิตใจ จากการตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ต่อไป” อธิบดีกรมการปกครอง กล่าว
นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 คน ชุดจับกุมได้ตั้งข้อกล่าวหามีความผิดตามกฎหมาย 10 เรื่อง ได้แก่ 1. ร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี 2. ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี 3. ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี 4. ร่วมกันเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง 5. ร่วมกันเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง และได้กระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี อีกด้วย 6. ร่วมกันเป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก 7. ร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ 8. เป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานค้าประเวณี 9. เป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานค้าประเวณี อันเป็นสถานค้าประเวณีที่มีบุคคลและเด็กอายุกว่า 15 ปี ไม่ถึง 18 ปี 10. เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีต่อไป
“กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญในการปราบปรามการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย เพื่อสร้างความผาสุกและความสงบสุขให้กับประเทศไทย โดยหากพี่น้องประชาชนทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ขอให้ได้แจ้งมาที่ศูนย์ดำรงธรรมสายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อฝ่ายปกครองจะได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการโดยทันที เพื่อทำให้ปัญหาการค้ามนุษย์หมดไปจากสังคมไทย และจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งกระบวนการอย่างเด็ดขาด ไม่มีละเว้น” อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 526/2566 วันที่ 8 มิ.ย. 2566