วันนี้ (29 มิ.ย. 66) นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เผยว่า มูลนิธิกาญจนบารมี จัดโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส 4 หน่วย 4 ภาค ทั่วประเทศเฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเจริญพระชนมพรรษา ครบ 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 และสร้างความตระหนักรู้ถึงการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้อง ณ ศาลาโพธิ์พิมาน วัดโพธิ์แก้วนพคุณ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีนายโชคชัย สาครพาณิชย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุข และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมโครงการฯ
นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ปัจจุบันสตรีไทยมีความเสี่ยงสูงจากโรคภัยคุกคามทางสุขภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นสาเหตุของการป่วยและการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของสตรีไทยและยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุด คือ การตรวจเพื่อค้นหาให้ได้เร็วที่สุด อาจเป็นการตรวจเต้านมด้วยตนเอง การตรวจโดยบุคลากรทางการแพทย์ และการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านม ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้รับการประสานงานจากมูลนิธิกาญจนบารมี ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อพุทธศักราช 2540 เพื่อสนับสนุนการทำงานของโรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ในการป้องกันโรคมะเร็งให้กับประชาชน และต่อมาพระองค์ได้ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาการเข้าถึงการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมของสตรีทั่วไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิฯ จัดทำโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่ ด้วยเครื่อง Mammogram ให้สตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาสในชนบททั่วประเทศ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2557 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวต่ออีกว่า ทุกความทุกข์ ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เป็นหน้าที่ของเราคนมหาดไทยที่ต้องมุ่งมั่นที่จะ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน ผมในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้นำที่ต้องลุกขึ้นมาปลุก Passion พี่น้องข้าราชการ ในการที่จะทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ช่วยกันคิดแก้ไขปัญหาเพื่อที่จะ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” ให้กับพี่น้องประชาชนในทุกมิติ ตอบสนองต่อพลวัตรของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการ Change for good เกิดวิถีการทำงานของชาวมหาดไทยและวัฒนธรรมการทำงานแบบ “รองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด” ให้จงได้ และทำให้คนมหาดไทยมีความรักและปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชนทุกคน เป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วยกันสนองพระราชปณิธาน “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งที่ผิด” เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีความสุขอย่างยั่งยืน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวในช่วงท้ายว่า การจัดโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาสครั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 70 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 แล้วนั้น ยังจะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ถึงการตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้อง เพราะการค้นหามะเร็งในระยะแรกเริ่มได้นั้น จะช่วยทำให้ลดความรุนแรงและลดอัตราการตายด้วยโรคมะเร็งเต้านมลงได้ และยังจะทำให้ให้กลุ่มผู้นำสตรีและพี่น้องประชาชนได้ตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม ช่วยเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญของการตรวจเต้านมด้วยตนเองแก่สตรีทุกคน ได้มีความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านม สามารถฝึกตรวจเต้านมด้วยตนเอง และได้รับการตรวจเต้านมอย่างครอบคลุมโดยกลุ่มที่ผิดปกติได้รับการตรวจอัลตราซาวด์และเอกซเรย์เต้านมโดยเครื่องเมมโมแกรม และส่งต่อรักษาได้อย่างทันท่วงที
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครังที่ 623/2566 วันที่ 29 มิ.ย. 2566
