พ่อเมืองเพชรบุรี เปิดการฝึกอบรมตามโครงการช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัด พื้นที่อำเภอท่ายาง เน้นย้ำผู้เข้าอบรม “ชีวิตทั้งชีวิตจะมาจบชีวิตเพราะยาเสพติดไม่ได้” พร้อมยืนยันว่า ทุกภาคส่วนยินดีและเต็มใจในการทำให้ทุกคนได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ เพื่อสร้างสรรค์สังคมเพชรบุรีให้เป็นสังคมแห่งความสุขที่ยั่งยืนร่วมกัน

วันนี้ (4 ก.ค. 66) นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดเพชรบุรีได้จัดฝึกอบรมตามโครงการช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดเพชรบุรี สาขาอำเภอท่ายาง โดยได้รับความเมตตาจากพระครูสารธรรมนิเทศ เจ้าคณะตำบลท่ายาง เข้าร่วมพิธีฯ โดยมี นายจงรัก เพชรเสน นายอำเภอท่ายาง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทีมวิทยากร ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิด ณ วัดชายนา ตำบลบ้านในดง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี

นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าเพชรบุรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการเชิงรุกเพื่อแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งจังหวัดเพชรบุรี ได้จัดทำโครงการช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เพื่อลด Demand Side และ Supply Side โดยการจับกุมตัวผู้ค้ายาเสพติดและเครือข่ายมาดำเนินคดียาเสพติดตามกฎหมายและนำผู้เสพยาเสพติดทั้งรายเดิมและรายใหม่ เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และฟื้นฟูสภาพทางสังคม โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน จัดกิจกรรมต่าง ๆ เสริมสร้างความแข็งแรงของสุขภาพร่างกาย ความเข้มแข็งของจิตใจ และการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และสร้างความเข้าใจ รวมถึงการส่งเสริมและฝึกฝนให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ด้านทักษะอาชีพ ต่อยอดให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ และสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข

“จังหวัดเพชรบุรี ได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการพัฒนาโปรแกรมการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดให้มีหลักสูตรที่เหมาะสม เริ่มตั้งแต่การค้นหา คัดกรอง จำแนกผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาแบบระบบสมัครใจ และดำเนินโครงการช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดเพชรบุรี ด้วยการจัดโครงการอบรมเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ยาเสพติด/ผู้ติดยาเสพติด ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 12 กรกฎาคม 2566 มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 50 ราย โดยได้รับเมตตาจากพระครูสารธรรมนิเทศ เจ้าคณะตำบลท่ายาง เมตตาแสดงธรรมเทศนา ให้ข้อคิดแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ตลอดจนการทำกิจกรรมฝึกสมาธิ สวดมนต์ ตามหลักศาสนา ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมฯ ซึมซับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา เกิดทัศนคติเชิงสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจในการรังสรรค์สิ่งที่ดีให้แก่ตนเอง ครอบครัวและสังคม ทำให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดที่เข้ารับการอบรมเห็นคุณค่าของการทำความดี เกรงกลัวและไม่อยากข้องเกี่ยวกับสิ่งไม่ดี ไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำอีก สามารถกลับคืนสู่ครอบครัว/ชุมชน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศและเป็นคนดีของสังคม และหลังจากการอบรมฯ แล้วเสร็จ ทางอำเภอได้ตั้งทีมงานระดับอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน คุ้ม ในการให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ พร้อมทั้งเฝ้าดูแลติดตาม ให้คำปรึกษาตลอดระยะเวลา 5 ปี และส่งข้อมูลให้ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขอคำปรึกษาและขอความช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง” ผวจ.เพชรบุรี กล่าว

นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีล้วนมีความความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้ผู้ติดยาเสพติดที่เข้ารับการบำบัดรักษา เพราะทุกคนเป็นเหมือนญาติมิตร ญาติพี่น้องที่ต้องช่วยเหลือดูแลกันและกัน พร้อมทั้งได้กล่าวย้ำเตือนว่า ต้องคิดให้รอบคอบ มีสติ เพราะ “ชีวิตทั้งชีวิตจะมาจบชีวิตเพราะยาเสพติดไม่ได้” ถ้าชีวิตดับ ต้องติดคุก ติดตาราง ที่สำคัญทำร้ายหัวใจคนที่รักเราและคนที่เรารัก และยังทำร้ายคนใกล้ชิดที่คนปกติไม่มีทางทำร้ายได้ และขอให้คิดอยู่เสมอว่ายังมีครอบครัวและคนที่เรารักยังรอเราอยู่ อย่าให้ยาเสพติดเป็นตัวกำหนดชีวิต กลับตัวกลับใจ ต้องเลิกให้ได้ เปลี่ยนชีวิตมาเป็นคนดีให้จงได้

“ท้ายสุดนี้ ขอเรียนว่า จังหวัดเพชรบุรี ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ด้วยพลังแห่งการบูรณาการ อันสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) ข้อที่ 17 หรือ Partnership โดยน้อมนำหลักการทรงงาน คือ “บวร” บ้าน วัด ราชการ ขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ภาคเอกชน พี่น้องประชาชนทุกคน มาร่วมเป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ผู้หลงผิดกลับตัวกลับใจ คืนคนดีสู่สังคม รวมถึงแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ โดยผู้ที่พบเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด หรือพบเห็นผู้เสพยาเสพติดที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา หรือผู้ติดยาเสพติดประสงค์จะเข้ารับการฟื้นฟูสภาพทางสังคม ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่งทั่วประเทศ หรือแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือโทรสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอดเวลา” นายณัฏฐชัย กล่าวในช่วงท้าย

กองสารนิเทศ
ที่ 643/2566  วันที่ 4 ก.ค. 2566