วันนี้ (10 ม.ค. 67) นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เปิดเผยถึงการนำหลัก “บวร” (บ้าน/วัด/ราชการ) หนึ่งในแนวทางการทำงานตามศาสตร์พระราชามาขับเคลื่อนกิจกรรมในพื้นที่ เพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน โดยภาคีเครือข่ายพื้นที่ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ร่วมทำกิจกรรมขับเคลื่อนงานอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน และกิจกรรมหมู่บ้านศีลธรรม ซึ่งได้รับเมตตาจากพระครูสีลาจารวัตรธำรง (สมชัย ฐิตสีโล) เจ้าคณะตำบลยางหัก เขต 1 เจ้าอาวาสวัดไทรงาม ร่วมทำกิจกรรม และมีกำนันตำบลยางหัก สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ประชาชน และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทำกิจกรรมร่วมกัน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของหลักการ “บวร”
นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอปากท่อ กล่าวว่า อำเภอปากท่อให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” สู่การเป็น “หมู่บ้านศีลธรรม” อย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการบูรณาการกิจการงานคณะสงฆ์และการพัฒนาหมู่บ้านตามโครงการหมู่บ้านยั่งยืน โดยส่วนราชการและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมกับคณะสงฆ์จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ประชาชนมีความตระหนักในการคิดดี ปฏิบัติดี ด้วยการนำของผู้นำชุมชน และการมีส่วนร่วมของชาวบ้าน ควบคู่กับการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะการยึดถือศีล 5 มาประพฤติปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต ทำให้ชุมชนเข้มแข็งและอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข สามารถช่วยกันแก้ปัญหาสังคมได้อย่างยั่งยืน
“การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะขยายสิ่งดี ๆ ไปทุกหมู่บ้านในตำบลยางหัก เพื่อให้ชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลกว่าเส้นทางบิณฑบาตได้มีโอกาสตักบาตร ปฏิบัติธรรม สร้างความมั่นคงทางธรรม และมีการพัฒนาทางด้านจิตใจ ซึ่งอำเภอปากท่อ ได้กำหนดจัดกิจกรรม “เส้นทางแสงธรรมนำสุขวิถีพุทธ” โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมาย ณ วัดหินสี รวมไปถึงวัดต่าง ๆ เพื่อให้วัดไม่เป็นเพียงสถานที่ทำพิธีกรรม แต่เป็นสถานที่สร้างคนให้มีสุขภาวะที่ดี และที่สำคัญที่สุดจะทำให้วัดและชุมชนเกิดความยั่งยืน เกิดการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยมีหน่วยงานราชการเป็นส่วนเสริมสนับสนุนสร้างความยั่งยืนด้วยความเข้มแข็งของคนที่อยู่ในชุมชน เพราะทุกคนต้องการร่วมกันตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน สถาบันพระมหากษัตริย์ และพระพุทธศาสนา เพื่อทำให้สังคมยังคงอยู่ แผ่นดินไทยยังคงเป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง แผ่นดินแห่งความผาสุก ด้วยการสืบสานพระราชปณิธานและศาสตร์พระราชา มุ่งเสริมสร้างหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจนสร้างพลังสามัคคีแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าตลอดไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอปากท่อ กล่าวในช่วงท้ายว่า การหลอมรวมพลังของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในครัวเรือน ชุมชน สังคม รวมทั้งการมีวัดซึ่งเป็นภาคศาสนาเข้ามาเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนงานนั้น จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนและหมู่บ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้คนในสังคมดูแลซึ่งกันและกัน ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการรวมกลุ่มกันเป็นคุ้ม เป็นป๊อก เป็นหย่อมบ้าน มีการพูดคุยปรึกษาหารือ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างรักใคร่สามัคคี ทั้งในเรื่องของภัยทางสังคมรูปแบบใหม่ อาทิ การฉ้อโกงออนไลน์ การหลอกโอนเงินทางโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงภัยทางสังคมในรูปแบบเดิม เช่น ภัยยาเสพติด และการค้ามนุษย์ เป็นต้น ดังนั้น ขอให้ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ได้ช่วยกันบูรณาการภาคีเครือข่ายในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” เพื่อนำไปสู่การที่พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 44/2567 วันที่ 10 ม.ค. 2567
