วันนี้ (9 พ.ค. 67) นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ด้มอบนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มี อิทธิพล พร้อมสั่งการให้กรมการปกครองในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในประเทศ ภายใต้การอำนวยการ ของนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ดำเนินการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และดำเนินการหาข่าวอันเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับ การประกอบธุรกิจโดยคนต่างด้าวที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
โดยการตรวจสอบ ทีมงานได้รับข้อมูลจากที่ทำการปกครองอำเภอกะทู้ ว่าบริเวณ มาลีน พลาซ่า ป่าตอง และบริเวณอื่น ๆ ในพื้นที่ อ.กะทู้ มีโรงแรมที่ลักลอบเปิดให้บริการโดยไม่มีใบอนุญาต จึงได้ทำการลงพื้นที่ สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ามีสถานประกอบการที่มีการโฆษณาและเปิดให้บริการ ห้องพักแบบรายวันในลักษณะโรงแรม เก็บค่าเช่าห้องพักเป็นรายวัน แต่ไม่มีใบอนุญาต ประกอบธุรกิจโรงแรม และเจ้าของ/ผู้ดูแล จำนวนมากเป็นชาวต่างชาติ โดยตรวจสอบพบ เป้าหมาย จำนวน 19 แห่ง รวมกว่า 800 ห้อง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
“ภารกิจครั้งนี้มีชุดกำลังในการออกปฏิบัติการ ประกอบด้วย 1) ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและรักษาความสงบ (DOPA Force) กรมการปกครอง 2) ที่ทำการปกครองจังหวัดภูเก็ต 3) ที่ทำการปกครองอำเภอกะทู้ 4) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และสถานีตำรวจภูธรป่าตอง 5) เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต 6) เจ้าหน้าที่สรรพากรจังหวัดภูเก็ต” นางสาวไตรศุลี กล่าว
นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า การประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม จะมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีก วันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ ทั้งนี้เป็นไปตาม มาตรา 15 ประกอบมาตรา 59 พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2547 โดยการกระทำของผู้ประกอบการในลักษณะนี้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยและถูกสุขลักษณะต่อประชาชนผู้เข้าใช้บริการ ความมั่นคงปลอดภัยของอาคารที่อาจมีการดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต และในด้าน เศรษฐกิจที่อาจจะมีการหลบเลี่ยงการเสียภาษี และอาจจะมีความเกี่ยวพันกับการฟอก เงินของกลุ่มทุนต่างชาติ
นอกจากนั้น กลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่ผิดกฎหมายบางราย จะมีพฤติกรรมผูกขาดดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติจากชาติเดียวกันกับตนมาพัก อันจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท้องถิ่นและผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย กรมการปกครองจึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับ การกระทำความผิดกฎหมายในเรื่องอื่น เช่น การดัดแปลงอาคารและการใช้อาคาร ผิดประเภท การหลบเลี่ยงภาษี การฟอกเงิน ซึ่งจะดำเนินการขยายผลและดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 829/2567 วันที่ 9 พ.ค. 2567
