เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 67 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตนได้เป็นประธานในพิธีปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ แปลงอารยเกษตร บ้านวังอ้อ ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีนายสำเริง ม่วงสังข์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายสมมาฏฐ์ โพธิ ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี นางพัชรินทร์ สุจริต เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี นายวีระชัย ประเสริฐโส หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี และหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ปละระดับอำเภอ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
นายศุภศิษย์ฯ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรมที่ดินได้มีโครงการอารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงด้วยกิจกรรมที่ดินปันสุข เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยให้สำนักงานที่ดินจังหวัดจัดทำแผนการปฏิบัติงาน (กิจกรรม) ให้สอดคล้องกับโครงการฯ ภายในกำหนดเวลาของโครงการฯ เช่น การดำเนินกิจกรรม “ที่ดินปันสุข” เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการปลูกไม้ผลในแปลงอารยเกษตร เพื่อเพิ่มพูนความอุดมสมบูรณ์ให้พี่น้องประชาชน ประกอบกับจังหวัดอุบลราชธานีได้มีหนังสือเชิญชวนจัดกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2567 เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการอารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียงด้วยที่ดินปันสุข เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของกรมที่ดิน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุวัตถุประสงค์ และสนับสนุนกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2567 ซึ่งจะเป็นพื้นที่แห่งการทำความดี ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้แก่พี่น้องประชาชน ตลอดจนผู้คนที่อยู่ในพื้นที่
“ด้วยเหตุนี้ สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้ร่วมกับวัดป่ามหาธีราจารย์ และโรงเรียนบ้านวังอ้อ (ยอดสังข์วิทยา) และภาคีเครือข่าย อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบลหัวดอน จัดทำโครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ขึ้น เพื่อเพิ่มพูนความอุดมสมบูรณ์และรณรงค์สร้างจิตสำนึก ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชนในท้องถิ่น ด้วยการปลูกไม้ผล 5 สายพันธุ์ จำนวน 200 ต้น ได้แก่ ต้นมะไฟ ต้นมะพร้าวน้ำหอม ต้นไผ่ซางหม่น ต้นส้มโอ และต้นมะม่วงมหาชนก ในพื้นที่แปลงอารยเกษตร บ้านวังอ้อ ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี” นายศุภศิษย์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายศุภศิษย์ฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องขอขอบคุณและชื่นชมทางสำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี วัดป่ามหาธีราจารย์ รวมไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านในการจัดกิจกรรมวันนี้ ที่สามารถสร้างภาคีเครือข่ายที่สำคัญ คือ เครือข่าย “บวร” อันประกอบด้วย บ้าน วัด ราชการ/โรงเรียน ให้ได้เข้ามาทำสิ่งที่ดี เป็นประโยชน์ร่วมกัน ในการปลูกต้นไม้ ขยายพันธุ์พืช อันเป็นการขยายผลของโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา “อารยเกษตร” ผสมผสานกับ โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งสร้างความยั่งยืน ในการใช้พื้นที่เพื่อการสร้างความมั่นคงในทุก ๆ ด้าน ทั้งทางอาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยาสมุนไพรรักษาโรค ซึ่งปัจจัยสำคัญ คือ การพัฒนาดินที่เป็นดั่งจุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อน “วันดินโลก” ด้วยเเนวคิด ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน (Sustainable soil and water for better life) ในวันนี้ที่ทุกท่านได้มาร่วมกันปลูกต้นไม้ จึงถือเป็นการช่วยอนุรักษ์ดิน ควบคู่ไปด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อดินมีต้นไม้ ดินก็จะชุ่มชื้น ขณะเดียวกันเมื่อต้นไม้ที่มีดินชุ่มชื้น ก็ย่อมจะผลิดอกออกผลมาให้เราสามารถเก็บไปกิน หรือ แจกจ่าย จำหน่ายได้อีกด้วย ช่วยให้เราสามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส มีกินมีใช้ สร้างความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่ของเราเอง นอกจากนี้ ในปีนี้ยังเป็นปีมหามงคลที่พวกเราทุกคนจะได้ร่วมกันเฉลิมฉลองและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 การปลูกต้นไม้ ณ แปลงอารยเกษตร บ้านวังอ้อ จึงถือเป็นการปฏิบัติบูชาอีกหนึ่งความดี ที่เราทุกท่านจะได้ร่วมกันทำเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอเป็นกำลังใจและเชิญชวนพี่น้องพสกนิกรชาวจังหวัดอุบลราชธานี ได้น้อมนำพระราชดำริต่าง ๆ ของพระองค์ท่านมาเป็นหลักชัยปรับใช้นำชีวิต เพื่อแสดงความจงรักภักดี ตลอดจนสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ทำความดี โดยเริ่มจากการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยของตนเองให้มีวิถีเกษตรที่ยั่งยืน ลดการพึ่งพาจากภายนอก สร้างความแข็งแกร่งจากภายใน คือ ครัวเรือน อันจะนำไปสู่การเป็น “ครัวเรือนยั่งยืน หมู่บ้านยั่งยืน ตำบลยั่งยืน อำเภอยั่งยืน และจังหวัดยั่งยืน” ตลอดไป
#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1107/2567 วันที่ 9 มิ.ย. 2567