วันนี้ (14 มิ.ย. 67) พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ที่ปรึกษาพิเศษด้านงานจิตอาสาและโครงการพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายธัชพล อภิรติมัย ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ ของท่านราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้มีการรายงานความก้าวหน้าการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 1) ด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ด้วยการขุดลอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำในคลองแม่ข่าทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เก็บขยะ และกำจัดวัชพืชรวมถึงสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ในคลองแม่ข่าอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งรณรงค์สร้างการรับรู้และความร่วมมือให้ประชาชนงดทิ้งขยะลงคลอง และได้มีการจัดทำฝายชะลอน้ำ จำนวน 720 ฝาย ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม และในโครงการเกษตรวิชญาตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน 2) ด้านการพัฒนาคุณภาพน้ำ ได้มีการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา 2 ระยะ คือ “ระยะเร่งด่วน” ด้วยการบังคับใช้กฎหมายควบคุมควบคู่กับการแจกจ่ายเครื่องดักไขมันให้กับบ้านเรือนในชุมชน และซ่อมแซมท่อรวบรวมน้ำเสียในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยองค์การจัดการน้ำเสีย กระทรวงมหาดไทย จะเร่งดำเนินการซ่อมแซมและก่อสร้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และใน “ระยะยาว” องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการออกแบบรวบรวมน้ำเสียในพื้นที่คลองแม่ข่าเชื่อมโยงกับระบบย่อยของแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะได้มีการจัดทำข้อเสนอเพื่อขอรับงบประมาณการจัดทำระบบรวบรวมน้ำเสียและบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพต่อไป 3) ด้านการปรับปรุงภูมิทัศน์สภาพแวดล้อมและพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นพื้นที่อรรถประโยชน์ เป็นพื้นที่สีเขียว เป็นปอดของชุมชน ใช้สำหรับพักผ่อน ทำกิจกรรมกีฬา และนันทนาการ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วรวม 4 จุด รวมระยะทาง 2,355 เมตร ได้แก่ จุดที่ 1 บริเวณชุมชนระแกง ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จุดที่ 2 บริเวณบ้านมั่นคง ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จุดที่ 3 บริเวณท่าน้ำพระนอน-ป่ารวก ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม และจุดที่ 4 บริเวณบ้านท่อ ซอยโชตนา 22 และ 4) ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง ได้ดำเนินการสำรวจชุมชนริมคลองแม่ข่าพบว่ามีจำนวน 20 ชุมชน 1,822 หลังคาเรือน ประชากรกว่า 4,000 คน โดยพบว่ามีการปลูกบ้านคร่อมคลอง จำนวน 101 หลัง ซึ่งได้มีการประกาศใช้แผนและผังแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ริมคลองแม่ข่าและลำน้ำสาขา โดยกำหนดพื้นที่นำร่องในการดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนริมคลองแม่ข่า 3 ชุมชน/กลุ่มหลัก คือ ชุมชนหัวฝาย-กำแพงงาม ชุมชนตะแกรง และกลุ่มคร่อมคลอง ซึ่งขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการจัดทำแบบบ้านพร้อมรายละเอียด และจัดทำร่างสัญญาเช่าที่ดินสำหรับพื้นที่นำร่องชุมชนหัวฝายกำแพงงาม จำนวน 39 หลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการพัฒนาอ่างเก็บน้ำหนองเขียว บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการขุดอ่างเก็บน้ำ จำนวน 3 บ่อ เพื่อใช้ประโยชน์ในการเป็นแก้มลิงกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ได้ไม่น้อยกว่า 130,000 ลูกบาศก์เมตร และเดินทางต่อไปยังสวนสาธารณะรถไฟ ตำบลวัดเกต อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อติดตามการปรับปรุงพื้นที่สวนสาธารณะที่รกร้างในอดีต จำนวน 62 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้เริ่มเข้ามาปรับปรุงพื้นที่เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เพื่อทำให้เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ ใช้ในการรองรับการออกกำลังกาย และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นที่ และคณะฯ ได้เดินทางต่อไปยังโครงการก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียจุด PS10 เทศบาลนครเชียงใหม่ ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำเสียเข้าสู่ระบบเฉลี่ย 22,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานในการแก้ไขในสิ่งผิด อันสะท้อนผ่านพระราชดำรัส “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งเป็นการขยายความพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำพระราชปณิธานร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้วยพลังของ “ภาคีเครือข่าย” และการน้อมนำหลักการทรงงาน ร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ ของพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วนของพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้จากคลองแม่ข่าที่เคยเป็นแหล่งรวมน้ำเสีย ได้รับการปรับปรุงพัฒนาเป็นแหล่งรวมน้ำใส ภูมิทัศน์ที่เคยไม่สะอาดตา ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม พื้นที่ทางเดินตามแนวคลองจากต้นไม้ทึบ กลายเป็นทางเดินที่น่าเดิน ทั้งนี้ ในส่วนที่ยังคงต้องแก้ไขต่อไป สิ่งสำคัญที่สุด คือ “พลังการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกคน” จะเป็นกลไกที่สำคัญในการทำให้สิ่งเหล่านี้อยู่คู่กับนครเชียงใหม่ และถ่ายทอดไปสู่เด็ก เยาวชน คนรุ่นต่อไป ให้ภาคภูมิใจ และมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาคลองแม่ข่าให้อยู่คู่กับจังหวัดเชียงใหม่ และคู่กับประเทศไทย อย่างยั่งยืนตลอดไป” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1174/2567 วันที่ 14 มิ.ย. 2567