เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 67 นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย มีนโยบายมุ่งเน้นการจัดระเบียบสังคม กวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเสพติด และสิ่งมอมเมาต่าง ๆ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า ที่กำลังระบาดเป็นอย่างหนัก โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งจังหวัดภูเก็ตก็ได้ให้สำคัญในการรักษาความมั่นคงภายใน พร้อมกับการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนจากความเดือดร้อนในพื้นที่ ด้วยการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยตนได้สั่งการให้นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต บูรณาการฝ่ายปกครองพร้อมด้วย นายสุวิทย์ สุริยะวงค์ ปลัดจังหวัดภูเก็ต และนายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอกะทู้ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนกรณีมีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารวมถึงอุปกรณ์ส่วนควบและบุหรี่ผิดกฎหมายในพื้นที่ อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต พร้อมนำชุดปฏิบัติการบุกตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายค้นเข้าสู่กระบวนทางกฎหมายต่อไป
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียน พบร้านค้าบริเวณสี่แยกสี่กอ หมู่ที่ 6 ถ.วิชิตสงคราม ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้มีการกระทำผิดจริง ตามข้อร้องเรียน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดภูเก็ต และสั่งการให้นายอัครา สุวัตถิกุล ป้องกันจังหวัดภูเก็ต นำปฏิบัติการพร้อมด้วย นายจิระเดช บุรารักษ์ นายธงไชย รัตนเดช ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดภูเก็ต นายจิรวัฒน์ นะมาตร์ ปลัดอำเภอกะทู้ สมาชิก อส.ร้อยบก.บร.อส.จ.ภก./ร้อย อส.อ กะทู้ที่ 2 พร้อมด้วย นายกฤช เทพบำรุง หัวหน้าศูนย์ข่าว D.S.I.จังหวัดภูเก็ต ทำการบุกตรวจค้น ณ จุดดังกล่าว ตามหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต โดยภายหลังการตรวจค้นภายในร้านพบของกลาง ดังนี้ 1. บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 35 อัน 2. อุปกรณ์สูบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 7 อัน 3. บุหรี่ผิดกฎหมาย จำนวน 2,782 ซอง (53,874 มวน) และ 4. เงินสด จำนวน 3,361 บาท พร้อมผู้ต้องหาหญิงซึ่งเป็นพนักงานขาย 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวให้ผู้ต้องหาได้รับทราบ จำนวน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ 1. มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี หรือ เสียภาษีไม่ครบถ้วนตามพระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 203 2. มีไว้เพื่อการขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี หรือ เสียภาษีไม่ครบถ้วน ตามพระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 204 3. มีการซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิด ตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กําหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนําเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 และ 4. ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้า หรือ ตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขาย หรือ ห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้า หรือ ตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้าห้ามขาย พร้อมนี้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครองได้นำตัวผู้ต้องหาส่งต่อพนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ด้วยกระทรวงมหาดไทยมีนโยบายที่มุ่งเน้นการจัดระเบียบสังคม กวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเสพติด และสิ่งมอมเมาต่าง ๆ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนที่เป็นกำลังและอนาคตที่สำคัญของชาติในวันข้างหน้า จังหวัดภูเก็ตจึงมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษาในสถานศึกษา และสถาบันการศึกษาทุกระดับ ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และประชาชนในพื้นที่ ให้ห่างไกลจากสิ่งเสพติดและของมึนเมาผิดกฎหมาย เพื่อเป็นการเสริมสร้างความปลอดภัย ทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยพี่น้องประชาชนหากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด ทั้งร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แหล่งมั่วสุมมอมเมา หรือ ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขอให้ได้แจ้งมายังที่ทำการปกครองอำเภอทุกอำเภอ หรือ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1261/2567 วันที่ 22 มิ.ย. 2567