น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต และเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) ถึง 15 ก.ย. 67 พร้อมกับมีข้อกำหนดให้ประชาชนผู้มีสิทธิต้องใช้จ่ายในเฉพาะพื้นที่อำเภอที่ตนมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านนั้น ณ ปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานดูแลข้อมูลด้านทะเบียนราษฎรพบว่าข้อมูลการย้ายที่อยู่ในระดับปกติ โดยในเดือน ก.ค. 67 พบว่า จำนวนประชาชนย้ายเข้า 222,341 คน ย้ายออก 222,736 คน รวม 445,077 คน ซึ่งจำนวนรวมใกล้เคียงกับเดือน พ.ค. และ มิ.ย. ซึ่งมีประชาชนทำการย้ายที่อยู่ทะเบียนบ้านรวม 527,379 คน และ 424,271 คนตามลำดับ และอยู่ในระดับปกติที่ประชาชนจะมีการทำการย้ายที่อยู่ประมาณ 4-5 แสนคนต่อเดือน
“ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่ามาตรการดิจิทัลวอลเล็ตที่กำหนดให้ต้องใช้จ่ายในพื้นที่ตามที่อยู่ตามทะเบียนบ้านอาจทำให้ประชาชนที่เดินทางไปทำงานในเมืองใหญ่ หรือพื้นที่เศรษฐกิจหลักๆ อาจจะมีการย้ายทะเบียนบ้านไปยังพื้นที่ที่สะดวกต่อการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ ณ ขณะนี้จากฐานข้อมูลทะเบียนของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ยังไม่พบการย้ายที่ผิดปกติแต่อย่างใด” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เกี่ยวกับการย้ายที่อยู่เพื่อให้เกิดความสะดวกกับการใช้จ่ายตามเงื่อนไขของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตถือเป็นสิทธิของประชาชนผู้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ทุกคน นั่นคือ ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป (ณ วันปิดลงทะเบียน) และมีสัญชาติไทย ขอเพียงได้ทำการย้ายก่อนทำการลงทะเบียนรับสิทธิตามโครงการเท่านั้น
ทั้งนี้ จากการให้นโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่มอบกรมการปกครอง โดยเฉพาะฝ่ายที่ทำหน้าที่ดูแลด้านทะเบียนราษฎร อำเภอ สำนักงานเขต ขณะนี้ทุกแห่งมีความพร้อมสำหรับให้การสนับสนุนกรณีที่อาจมีประชาชนย้ายที่อยู่ในทะเบียนบ้านมากขึ้นในช่วงเวลานี้ ทั้งการย้าย ณ ที่ว่าการอำเภอ/ สำนักงานเขต และการย้ายด้วยระบบดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ในการนี้ รมว.มหาดไทยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลแก่ประชาชนกรณีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและประเด็นข้อสงสัยนั้นมีความเกี่ยวข้องกับขอบอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับข้อมูลทางทะเบียนในภาพรวม พบว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ค. 67 รวม 7 เดือน ประชาชนทั่วประเทศไทยมีการย้ายทะเบียนบ้านเข้า-ออกรวม 3,158,727 คน แยกเป็นการย้ายเข้า 1,578,007 คน และ ย้ายออก 1,580,720 คน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1488/2567 วันที่ 31 ก.ค. 2567