วันนี้ (1 ส.ค. 67) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองอำเภอพานได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า มีการมั่วสุมเสพยาเสพติด ที่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 1 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย ตนจึงได้สั่งการให้นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย อำนวยการให้นายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย หน.ศอ.ปส.จ.ชร. สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 นายบุญเกิด นาราช ปลัดอำเภอพาน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอพานที่ 11 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พาน และชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ชป.2 กก.สส.ภ.จว.เชียงราย จัดชุดปฏิบัติการเชียงรายฟ้าใส เข้าจับกุมผู้เสพได้ 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5,000 เม็ด โดยได้นำผู้กระทำผิดส่งให้เจ้าพนักงานสืบสวนดำเนินการสอบสวนแล้ว โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างขยายผลการจับกุม
นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อไปว่า จังหวัดเชียงรายได้มุ่งมั่นในการดำเนินตามนโยบายจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และแก้ไขปัญหายาเสพติดของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอย่างเข้มข้น โดยปฏิบัติการ “เชียงรายฟ้าใส” ได้บูรณาการกำลังระหว่างชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร ร่วมกันจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่มีการจำหน่ายกระจายทั่วพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งการออกปฏิบัติการในครั้งนี้ ฝ่ายปกครองอำเภอพาน ได้รับการแจ้งเบาะแสมาว่าบ้านหลังดังกล่าวมีกลุ่มวัยรุ่นทั้งหญิงและชายอยู่กันหลายคนกำลังทำการมั่วสุมยาเสพติด และเป็นศูนย์กลางในการกระจายยาเสพติดให้กับวัยรุ่นในหมู่บ้านจนติดงอมแงม จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการเชียงรายฟ้าใสลงพื้นที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะที่ทำการปิดล้อมตรวจค้น ได้มีกลุ่มวัยรุ่นหลบหนีปีนข้ามกำแพง เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าจับกุม โดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 3 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 1 ราย ที่ยังคงมีอาการมึนเมาอยู่
“จากการตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบ พบยาเสพติด ประเภทยาบ้า เบื้องต้นประเมินได้กว่า 5,000 เม็ด ยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง อาวุธปืนจำนวน 5 กระบอก เป็นปืนสั้น 3 กระบอก ยาว 2 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผู้ต้องหา ในรถ กระจายรอบพื้นที่ เครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมาก อาวุธมีด 7 เล่ม เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 3 เครื่อง และอุปกรณ์การเสพ กระจายทั่วบริเวณอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางทั้งหมดพร้อมตรวจยึดรถยนต์กระบะ จำนวน 4 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน โดยในระหว่างตรวจค้นได้มีเครือข่ายผู้เสพมีโทรมาสั่งยาบ้าจำนวน 70 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหา ให้การสารภาพว่ารับยาบ้ามาตกเม็ดละ 5-6 บาท และขายต่อในราคาเม็ดละ 20 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อสืบสาวหาเครือข่ายทั้งต้นทาง และปลายทางเพื่อดำเนินการขยายผลต่อไป” นายพุฒิพงศ์ กล่าว
นายพุฒิพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จังหวัดเชียงราย ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์” ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เนื่องจากมีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งง่ายต่อการลักลอบขนยาเสพติดข้ามแดน และบ่อยครั้งที่ยาเสพติดถูกนำมาแพร่กระจายในพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายในกลุ่มเด็กเยาวชนและกลุ่มเปราะบาง จนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถจับกุมและตรวจยึดของกลางเป็นยาเสพติดจำนวนมาก ตนจึงอยากเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ทุกคนเป็นกำลังพลที่พร้อมจะปฏิบัติงานต่อต้านยาเสพติดด้วยวิธีการทุกรูปแบบทั้งเชิงรุก และเชิงรบ เพื่อปราบปรามกลุ่มพ่อค้า ผู้ที่ลักลอบขนยา ค้ายา และเสพยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
“ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมุ่งมั่น และยึดมั่นในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปฏิบัติหน้าที่โดยไม่หลงมัวเมาในสิ่งผิด การยั่วยุ และการพยายามติดสินบนของผู้กระทำผิดเพื่อให้รอดพ้นจากกฎหมาย โดยต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่า เรา คือปราการด่านสุดท้ายที่จะสามารถปกป้องพี่น้องประชาชน รวมทั้งลูกหลานของทุกคนให้รอดพ้นและปลอดภัยจากยาเสพติดซึ่งเป็นภัยร้ายที่กำลังจะคืบคลานเข้ามาทำลายสังคมไทยอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ พี่น้องประชาชนยังสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการปราบปรามยาเสพติด ด้วยการร่วมเป็นหูเป็นตาสอดส่องความผิดปกติ แจ้งเบาะแสการกระทำความผิดทุกประเภท ผ่านทางนายอำเภอ ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมด้วยช่วยกันรักษาสังคมที่เรารัก และทำให้ยาเสพติดหมดสิ้นไปจากสังคม เป็นเมืองเชียงรายสีขาวปลอดภัยจากยาเสพติด 100%” นายพุฒิพงศ์ กล่าวในช่วงท้าย
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOI
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1491/2567 วันที่ 1 ส.ค. 67