วันนี้ (3 ส.ค. 67) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการจัดโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยโดยผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดจัดโครงการฯ ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2567 จำนวน 21 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดี รวมทั้งได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรมในพระพุทธศาสนา ศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติสมณธรรมและสามารถนำมาปรับใช้เป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงได้เรียนรู้เรื่องความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันจะนำไปสู่การอยู่ในสังคมร่วมกันอย่างสันติสุข
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตลอด 21 วัน ของการดำเนินโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พระนวกะทั้ง 6,686 รูปทั่วราชอาณาจักรไทยได้รับเมตตาจากพระสังฆาธิการเจ้าคณะผู้ปกครอง และเจ้าอาวาส ตลอดจนพระเถรานุเถระ ในการสนับสนุนและส่งเสริมถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านคุณธรรมจริยธรรม การครองสมณเพศ ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติบูชาอันสูงสุด ด้วยการอุทิศตนเป็นภิกษุสงฆ์ ปฏิบัติบำเพ็ญกุศล ด้วยจิตใจอันมุ่งมั่น โดยมีพี่น้องประชาชน หัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน ร่วมเดินทางทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารเช้า ถวายภัตตาหารเพล ตลอด 21 วัน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมกันปฏิบัติบูชา สร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ผู้ทรงเป็นฉัตรแก้วปกเกล้าปกกระหม่อมพสกนิกรชาวไทยทุกคนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงสายของวันนี้ พระสังฆาธิการ เจ้าคณะผู้ปกครอง ได้เป็นประธานในพิธีลาสิกขาบท พระนวกะตามโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งได้ร่วมในการปฏิบัติบำเพ็ญสิ่งที่ดีตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาเพื่อถวายพระพรชัยมงคล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาทิ
1. จังหวัดลำปาง ที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม พระอารามหลวง นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีลาสิกขา และมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยได้รับเมตตาจาก พระจินดารัตนาภรณ์,ดร. เจ้าคณะจังหวัดลำปาง เจ้าอาวาสวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ คณะอุบาสกอุบาสิกา ญาติโยมบุพการีของผู้บรรพชาอุปสมบท และประชาชนในพื้นที่ ร่วมพิธี
2. จังหวัดอำนาจเจริญ ที่วัดบ้านเก่าบ่อ ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีลาสิกขา และมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 97 รูป โดยได้รับเมตตาจาก พระครูภาวนากิจจาทร รองเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน เจ้าอาวาสวัดบ้านเก่าบ่อ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี ศาล อัยการ ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดอำนาจเจริญ เข้าร่วมในพิธี
3. จังหวัดอ่างทอง ที่วัดอ่างทองวรวิหาร ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองอ่างทอง นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีลาสิกขา และมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 83 รูป โดยได้รับเมตตาจาก พระสุวรรณวชิราทร รักษาการเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง เจ้าอาวาสวัดอ่างทองวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ปลัดจังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ข้าราชการ และประชาชนเข้าร่วมพิธี เข้าร่วมในพิธี
4. จังหวัดสกลนคร ที่วัดป่าบูรพาราม ตำบลดงชน อำเภอเมืองสกลนคร นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีลาสิกขา และมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 92 รูป โดยได้รับเมตตาจาก พระครูกิตติธรรมนิวิฐ รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี คณะสงฆ์จังหวัดสกลนคร รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ พ่อ แม่ และญาติของพระนวกะ เข้าร่วมพิธี
5. จังหวัดน่าน ที่ศาลาปฏิบัติธรรมวัดดอนมูล ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีลาสิกขา และมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 82 รูป โดยได้รับเมตตาจาก พระสุนทรมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี พระครูสิรินันท์ทวิทย์ เจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน เจ้าอาวาสวัดดอนมูล คณะสงฆ์ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ พ่อ แม่ และญาติของพระนวกะ เข้าร่วมพิธี
6. จังหวัดหนองคาย ที่ พระอุโบสถวัดโพธิ์ชัยพระอารามหลวง อำเภอเมืองหนองคาย นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีลาสิกขา และมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 94 รูป โดยได้รับเมตตาจาก พระเทพวชิรคุณ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระศรีวชิรโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย เจ้าอาวาสวัดชัยพร เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยมี คณะสงฆ์ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ พ่อ แม่ และญาติของพระนวกะ เข้าร่วมพิธี
7. จังหวัดนครปฐม ที่ศาลากองอำนวยการองค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีลาสิกขา และมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 74 รูป โดยได้รับเมตตาจาก พระธรรมวชิรเจติยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี คณะสงฆ์ ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ พ่อ แม่ และญาติของพระนวกะ เข้าร่วมพิธี
8. จังหวัดบุรีรัมย์ ที่หอพระไตรปิฎก วัดกลางพระอารามหลวง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ นายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีลาสิกขา และมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 505 รูป โดยได้รับเมตตาจาก พระธรรมวชิรสุตาภรณ์ (สุพจน์ โชติญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าอาวาสวัดกลาง พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พ่อแม่ญาติพี่น้องผู้บรรพชา และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี
9. จังหวัดนครนายก ที่วัดอุดมธานีพระอารามหลวง อำเภอเมืองนครนายก นายสุภกิณ์ แวงชิน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีลาสิกขา และมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 75 รูป โดยได้รับเมตตาจาก พระราชพรหมคุณ เจ้าคณะจังหวัดนครนายก เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อปากแดง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ พ่อแม่ญาติพี่น้องผู้บรรพชา และพุทธศาสนิกชน ร่วมเป็นเกียรติในพิธี
10. จังหวัดสระแก้ว ที่วัดศาลาลำดวน อำเภอเมืองสระแก้ว นายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีลาสิกขา และมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 92 รูป โดยได้รับเมตตาจาก พระสิริวุฒิเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดสระแก้ว เจ้าอาวาสวัดเหล่าอ้อย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ พ่อแม่ญาติพี่น้องผู้บรรพชา และพุทธศาสนิกชน ร่วมเป็นเกียรติในพิธี
นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ พุทธบริษัททุกท่านที่ได้ร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ จะได้นำแนวทางตามหลักธรรมคำสอน และแนวทางปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ ไปร่วมกันปฏิบัติบูชา ทำสิ่งที่ดีร่วมกันในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ตำบล อำเภอ จังหวัด ด้วยการทำให้หมู่บ้านเป็น “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” ดังที่กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ได้เชิญชวนภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน มาร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดหมู่บ้านยั่งยืน โดยน้อมนำแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มุ่งทำเกิดกระบวนการรวมกลุ่มเป็นกลุ่ม ได้ทำตามหลักการทรงงาน 4 กระบวนสู่ความยั่งยืน คือ ร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ เพื่อร่วมกันสนองพระราชปณิธาน คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” ร่วมกันสร้างสรรค์จรรโลงสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งความดีงาม ด้วยการเป็นคนดีของประเทศไทยและของโลกใบเดียวนี้ และประการที่สำคัญที่สุดคือ เป็นพสกนิกรที่ดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งมั่นตั้งใจทำความ ดี ด้วยหัวใจ เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ และความผาสุกของสังคมไทยอย่างยั่งยืน ดังพระราชปณิธาน “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข”
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันน้อมจิตน้อมใจปฏิบัติบูชาด้วยการทำความดี เจริญด้วยศีล สมาธิ ปัญญา เข้าวัดทำบุญตักบาตรร่วมกับครอบครัว และร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ ในทุกโอกาสของชีวิต เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต ในฐานะเป็นพุทธศาสนิกชน และในฐานะพสกนิกรที่ดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมถวายเป็นพระกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ตลอดปี 2567 เพื่อทำให้ประเทศไทยของพวกเราทุกคนเป็นประเทศที่ผู้คนมีแต่ความสุขที่ยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1509/2567 วันที่ 3 ส.ค. 2567