เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 67 นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมได้ดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน โดยตนได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนนายอำเภอ ติดตามการทำงานในโครงการหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) โครงการธนาคารขยะ ลงพื้นที่เยี่ยมครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง และให้กำลังใจประชาชน ในเขตพื้นที่ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า จากการได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม ได้มีกิจกรรมสำคัญดังนี้ 1) ประชุมชี้แจงและมอบแนวทางการปฏิบัติราชการให้กับปลัดอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจ และสร้างการรับรู้ถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนกลุ่มเปราะบาง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน 2) แลกเปลี่ยนประเด็นการทำงานเชิงพื้นที่และมอบแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และน้อมนำแนวทางพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” มาส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกันปลูกพืชผักสวนครัว สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และเป็นการส่งเสริมการขับเคลื่อนกิจกรรมวันดินโลก ( World Soil Day) ของกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งมั่นสร้างการรับรู้ตามแนวคิด ” ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน ” ให้เกิดการจัดการและอนุรักษ์ดิน และน้ำ ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของชีวิต ทำให้สังคม ชุมชน และโลกมีแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ 3) ชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการธนาคารขยะ (Recyclable Waste Bank) ซึ่งรับซื้อขยะรีไซเคิลจากประชาชนในพื้นที่ และนำมาจัดทำเป็นกองทุนฌาปนกิจศพ แบ่งปันผลประโยชน์ และใช้พัฒนาในพื้นที่หมู่บ้านตำบล ให้ประชาชนรู้จักแยกขยะ และนำขยะที่มีมูลค่ามาจำหน่ายให้กับธนาคารขยะตำบลนาทม ซึ่งจะช่วยทำให้ลดปริมาณขยะในพื้นที่ตำบล สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ 4 ) ตรวจติดตามการดำเนินงานตามนโยบาย ” หน้าบ้านน่ามอง นครพนมน่าอยู่ “ โดยได้ดำเนินกิจกรรม 5 ส. พัฒนาสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก สำนักงานเทศบาลตำบลฝั่งแดง และเสริมสร้างความพร้อมในการให้บริการประชาชน เพื่อนำการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า “Change for Good “
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นตนได้ตรวจเยี่ยมครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง จำนวน 2 ครัวเรือน ตามแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิต และเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านที่อยู่อาศัย ให้กับกลุ่มเปราะบาง พร้อมทั้งได้ตรวจเช็คความปลอดภัยในบริเวณบ้านไม่ให้มีจุดเสี่ยง ที่จะนำไปสู่อุบัติเหตุ หรืออัคคีภัย ได้แก่ ครัวเรือนของนางสาวศิริ สุโพเนิน บ้านเลขที่ 141 ม.6 ต.ฝั่งแดง สมาชิก 4 คน ประกอบไปด้วย พ่อแม่ลูก ลูกชาย จำนวน 2 คน อายุ 23 กับ 19 เป็นออทิสติกทั้งสองคน จึงไม่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และครัวเรือนของ นายประวิทย์ สุผาวัน บ้านเลขที่ 35 ม.10 ต.ฝั่งแดง อายุ 17 ปี การศึกษาจบ ป.6 ไม่ได้เรียนต่อ (ภาคบังคับ) เนื่องจากบิดามารดาเสียชีวิต จึงต้องอาศัยบ้านหลังนี้ใช้หลับนอน มีเพียงญาติห่าง ๆ ให้ใช้ห้องน้ำ อาหาร และมีน้องชายกำลังศึกษาต่อชั้น ป.4 ซึ่งมีคนรับไปดูแลเบื้องต้น ณ พื้นที่ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ทั้งนี้ จังหวัดนครพนมได้ดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และมอบหมายให้ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ร่วมกันดำเนินการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้กับผู้พิการ ให้มีความเหมาะสมและปลอดภัย และเร่งประสานสถานศึกษาในพื้นที่จัดเตรียมการเรียนการสอนที่เหมาะสมเพื่อให้การศึกษาแก่บุตรของครัวเรือนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังต่อไป พร้อมทั้งได้นำต้นพันธุ์พืชผักสวนครัว มาแจกจ่ายแบ่งปัน ให้ทั้งสองครัวเรือน ได้มีพืชผักสวนครัวที่ปราศจากสารเคมีไว้ใช้บริโภคภายในครัวเรือน เสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร และเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน
“ในการมอบนโยบายครั้งนี้ นอกจากจะได้กล่าวถึงการสร้างทีมงานเครือข่ายที่เข้มเเข็งแล้ว ยังได้กำชับให้ยึดพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง เพื่อหาเเนวทางในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเท่าเทียมเเละเสมอภาค สิ่งสำคัญของการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ซึ่งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของภาครัฐต้องอุทิศกายและใจเพื่อส่วนรวมในการที่จะเป็นตัวเชื่อมประสาน เป็นโซ่ข้อกลางให้กับทุกภาคส่วน และเป็นผู้ขับเคลื่อนงานในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นรูปธรรม ตามปณิธานแห่งการ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และขอให้ข้าราชการทุกคนให้พึงตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนอยู่เสมอ หมั่นลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ Coaching ให้กับประชาชน กระตุ้นปลุกไฟในหัวใจ สร้างกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนงาน ดูแล ความเป็นอยู่ ของประชาชนในพื้นที่ นำการพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า Change for Good อย่างยั่งยืน” นายวันชัยฯ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1558/2567 วันที่ 9 ส.ค. 2567