พ่อเมืองนครพนม นำทุกภาคส่วนเคารพธงชาติ ร่วมส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ มุ่งสร้างจิตสำนึกรักชาติ และความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทยอย่างรู้คุณค่า

วันนี้ (20 ส.ค. 67) นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมได้จัดกิจกรรมเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติไทย เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกรักชาติ สร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติ และเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศใช้พระราชบัญญัติธง พระพุทธศักราช 2460 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนของจังหวัดนครพนม เข้าร่วมกิจกรรมฯ ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) และบริเวณหน้าอาคารสำนักงานของส่วนราชการ

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ของชาติ ให้เป็นคนที่มีจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และยึดมั่นในสถาบันสำคัญของชาติ ด้วยการส่งเสริมการปลูกจิตสำนึก ค่านิยม อุดมการณ์การปกป้องและเทิดทูนสถาบันสำคัญของชาติ เพื่อสร้างการรับรู้ในการแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในความเป็นไทย และเป็นแบบอย่างให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะเยาวชน ให้มีความภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทยและยึดมั่นในสถาบันสำคัญของชาติ

“จังหวัดนครพนมได้ดำเนินการขับเคลื่อนการสร้างจิตสำนึกรักชาติ ด้วยการจัดกิจกรรมเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย และกิจกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความพร้อมของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และให้บริการประชาชนในวันเริ่มต้นของสัปดาห์ ซึ่งจะมีการทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยจังหวัดนครพนมได้จัดกิจกรรมเคารพธงชาติมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน เวลา 08.00 น. ในทุกวันอังคารของสัปดาห์ ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) และบริเวณหน้าอาคารสำนักงานของส่วนราชการต่าง ๆ ในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอของจังหวัดนครพนม” นายวันชัยฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวต่ออีกว่า นับเนื่องย้อนไปเมื่อ 108 ปีก่อน คือ วันที่ 13 กันยายน 2459 อันเป็นปฐมเหตุของการใช้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย มีความเกี่ยวข้องกับพวกเราชาวมหาดไทยโดยตรง สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเมืองอุทัยธานี ที่มีพระยาพิไชยสุนทร (ทอง จันทรางศุ) เป็นผู้ว่าราชการเมืองอุทัยธานี พสกนิกรต่างยินดีปรีดาร่วมกันในการประดับธงช้าง ซึ่งเป็นธงชาติในยุคนั้น แต่เนื่องจากธงช้างหายาก มีราคาแพง และต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ ผู้คนจึงประดับธงช้างเท่าที่มีอยู่ และใช้ผ้าพื้นสีแดงขาว ประดับและจับจีบผ้าทั่วบริเวณ โดยทรงทอดพระเนตรพบว่า บ้านบางหลังมีการประดับธงช้างสลับกลับด้าน คือ ช้างนอนหงายปลายเท้าชี้ฟ้า ทำให้เมื่อพระองค์เสด็จนิวัติพระนครจึงทรงมีแรงบันดาลพระทัยในการปรับเปลี่ยนรูปแบบธงชาติ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศใช้พระราชบัญญัติธง พระพุทธศักราช 2460 และพระราชทานธงชาติไทยให้มีลักษณะเป็นแถบสีเพื่อไม่ให้มีหัวมีท้าย หรือเรียกว่า “ธงไตรรงค์” มี 3 สี คือ “สีแดง” หมายถึง ชาติและเลือดเนื้อเชื้อไขของคนในชาติ นั่นคือ ประชาชน “สีขาว” หมายถึง ศาสนา และ “สีน้ำเงิน” หมายถึง พระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2460 ดังนั้น การเคารพธงชาติจะช่วยทำให้เรารำลึกนึกถึงความสำคัญของการมีธงชาติ ให้เราได้ช่วยกันรำลึกความหมายอันลึกซึ้งว่า ประเทศชาติจะมั่นคงเป็นปึกแผ่นเหมือนธงไตรรงค์ที่ไม่ขาด ไม่วิ่น และมีสีอันสำคัญหมายถึงสถาบันหลักโดยรวมจะยังคงมีความมั่นคงอยู่ได้ จะต้องอาศัยความรักความสามัคคีและความตื่นตัวช่วยกันต่อสู้เพื่อรักษาเอกราชความเป็นไทย

“ขอขอบคุณข้าราชการ และบุคลากรทุกท่านที่ได้มาร่วมกันแสดงเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นแน่วแน่ในการแสดงออกซึ่งความรักชาติ รักประเทศไทย รักและเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติร่วมกับพี่น้องข้าราชการในทุกส่วนราชการ ขอให้นายอำเภอผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ได้ลุกขึ้นมาเป็นโซ่ข้อกลางในการหลอมรวมพลัง ร้อยรวมใจ ดึงเอาภาคีเครือข่ายพี่น้องทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคสื่อสารมวลชน ทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่โน้มตัวลงไปหาประชาชน ทำงานให้รองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด ช่วยกันเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี สิ่งที่ดีงาม Change for Good สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคม สนองพระราชปณิธานแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” อันจะยังผลทำให้ประชาชนคนในชาติมีความสุขที่ยั่งยืน ประเทศชาติมีความมั่นคงสถาพรตลอดไป” นายวันชัยฯ กล่าวในตอนท้าย

#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOI #ChangeforGood

กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1616/2567  วันที่ 20 ส.ค. 67