เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 67 นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า ตนสั่งการให้นายสรณต ณ ศรีโต นายอำเภอท่าวุ้ง มอบหมายฝ่ายความมั่นคง นำโดยว่าที่ร้อยตรีหญิงสรวีย์ เหมือนเพ็ชร์ ปลัดอาวุโส นางสาวชลัฐา เพ็งสาทร ปลัดอำเภอท่าวุ้ง บูรณาการกำลังกับ ป้องกันจังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าวุ้ง เจ้าหน้าที่ อส. และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันปฏิบัติภารกิจ “ลดควัน พิทักษ์ปอด รักษ์เยาวชนคนท่าวุ้ง” บุกจับกุมร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ 1 แห่ง พร้อมของกลางจำนวนมาก ทั้งนี้ ได้นำตัวผู้กระทำผิดพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าวุ้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“จังหวัดลพบุรี ได้ดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด และมาตรการเข้มงวดกวดขันเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากอำเภอท่าวุ้ง ได้รับแจ้งจากผู้ปกครอง และประชาชนในพื้นที่ว่ามีร้านลับลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่เด็ก และเยาวชน จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลคือสามารถจับกุมร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าได้ 1 แห่ง พร้อมตรวจพบของกลางจำนวนมาก“ นายอำพลฯ กล่าว
นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวต่อว่า ซึ่งหลังจากเข้าจับกุมและตรวจยึดของกลางเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้กับเจ้าของร้านผู้กระทำผิดทราบ 2 ข้อ คือ ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ตามคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 และ ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซี่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้องตามมาตรา 246 วรรค 1 แห่ง พ.ร.ก.ศุลกากร ก่อนที่จะนำตัวผู้กระทำผิดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าวุ้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก ซึ่งจังหวัดลพบุรีได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายผู้สูบเป็นอย่างมาก อาทิ การก่อให้เกิดมะเร็งปอด เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและโรคปอดอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อทั้งตัวผู้สูบ ครอบครัว และชุมชนในระยะยาวอย่างแน่นอน จึงต้องดำเนินการจับกุมอย่างจริงจังและเด็ดขาด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนในความร่วมมือร่วมใจ โดยขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม ในฐานะผู้ทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย เป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อให้ทุกคนในสังคมได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตา ระแวดระวังบ้านเมืองของเรา หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง” นายอำพลฯ กล่าวทิ้งท้าย
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1649/2567 วันที่ 24 ส.ค. 67