วันนี้ (31 ส.ค. 67) นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี นายอาทิตย์ พรคุณา หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร ว่าที่ ร.ต.มนต์สง่า ลีลาศสง่างาม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี นายอมร พรมสอน นายอำเภอโขงเจียม นายสรชาย ครองยุทธ นายอำเภอพิบูลมังสาหาร ดร.ศิริมาเมธ์วดี ศิรธนิตรา นายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ร้อยตรี เหรียญชัย มาวงษ์. นายกเทศมนตรีตำบลบ้านด่าน พร้อมผู้นำชุมชนท้องที่ ได้ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขงและแม่น้ำมูล เพื่อประเมินสถานการณ์สำหรับการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งอาจมีผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักในบริเวณพื้นที่ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีสถานการณ์น้ำในลำน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่จังหวัดทางตอนบนของลำน้ำโขง
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) ได้ประกาศแจ้งเตือนให้จังหวัดเฝ้าระวังน้ำโขงล้นตลิ่งตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2567 ประกอบกับปริมาณฝนตกหนักสะสมตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้มีน้ำไหลผ่านเขื่อนไชยบุรี สปป.ลาว ในอัตรา 17,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะส่งผลกระทบต่อบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร แนวถนน ชุมชน และผู้ประกอบการบริเวณริมน้ำโขงในช่วงวันที่ 28 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 กันยายน 2567
“จากการลงพื้นที่พบว่าระดับน้ำโขงที่ท่าน้ำวัดโขงเจียม ที่เป็นจุดบรรจบแม่น้ำโขงกับแม่น้ำมูล (แม่น้ำสองสี) ในด้านแม่น้ำโขงยังไหลระบายได้แรงและในสายแม่น้ำมูลก็ยังไหลระบายได้ดี จากนั้นคณะได้เดินทางมายังเขื่อนปากมูล พบว่าแม่น้ำมูลที่หน้าเขื่อนและท้ายเขื่อนอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ส่วนพื้นที่ริมฝั่งน้ำเหนือเขื่อนปากมูลยังสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก น้ำในลำน้ำมูลยังไหลระบายผ่านเขื่อนปากมูลได้เป็นปกติ มีอัตราการไหล 623.96 ลบ.ม./วินาที นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำที่บริเวณเชิงสะพานแก่งสะพือ อำเภอพิบูลมังสาหาร พบว่าน้ำยังไหลระบายได้เป็นอย่างดี” นายศุภศิษย์ฯ กล่าว
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อการป้องกันอุทกภัยของจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการพร่องน้ำเปิดบานประตูระบายน้ำของเขื่อนปากมูลไว้ตั้งแต่ต้นฤดูฝนคือเริ่มแขวนบานตั้งแต่ 28 มิถุนายน 2567 และการพร่องน้ำจากเขื่อนที่อยู่ตอนบนจังหวัดอุบลราชธานีขึ้นไปไม่ว่าจะเป็นเขื่อนหัวนา เขื่อนราษีไศล เขื่อนยโสธร เขื่อนร้อยเอ็ด เขื่อนลำปาวและเขื่อนอุบลรัตน์ รวมถึงเขื่อนกั้นลำน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กได้พร่องน้ำเป็นแนวทางเดียวกันมาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลจึงเป็นผลให้การบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำชีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพไม่มีผลกระทบกับพื้นที่
“ได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมกำลังพล เครื่องมือ เครื่องจักรกล เพื่อรองรับสถานการณ์ โดยให้สามารถทำการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้พี่น้องประชาชนได้เฝ้าติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการถึงสถานการณ์น้ำและพายุฝนที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ หากมีเหตุประสบภัยหรือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ สามารถขอความช่วยเหลือทางโทรศัพท์ สายด่วนนิรภัย ปภ. 1784 หรือศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง” นายศุภศิษย์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป. มท.
ครั้งที่ 1698/2567 วันที่ 31 ส.ค. 67
