“อนุทิน” นำคณะตรวจการช่วยเหลือประชาชน จ.หนองคาย จากสถานการณ์แม่น้ำโขงล้นตลิ่ง ย้ำแผนเผชิญเหตุ ให้ความสูงสุดเซฟชีวิตผู้ประสบภัย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้(14 ก.ย. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นำคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ การเตรียมการบริหารจัดการสถานอุทกภัย และช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.หนองคาย

ทั้งนี้ นายอนุทินและคณะได้รับฟังสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำ ณ โครงการชลประทานหนองคาย พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติงานตามแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดอุทกภัยโดยให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลชีวิตประชาชน จากนั้นได้ออกพื้นที่เยี่ยมและมอบถุงยังชีพแก่ประชาชน ที่ ต.เวียงคุก และ ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย

นายอนุทิน เปิดเผยระหว่างการลงพื้นที่ว่า ขณะนี้ประมาณน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 13.65 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 1.45 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกโดยคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นสูงสุดที่ 14 เมตร ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย. 67) ณ ขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำโขงล้นตลิ่งใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ เมืองหนองคาย และอ.รัตนวาปี รวม 18 ตำบล 77 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 2,850 ครัวเรือนพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 33,450 ไร่ โดกรณีที่ถนนไม่สามารถสัญจรได้บางพื้นที่ แต่ยังไม่มีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

สำหรับการเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ นั้น ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.หนองคาย ได้ระดมกำลังจากหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งจังหวัด อบจ. ฝ่ายปกครอง หน่วยทหาร ตำรวจ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการช่วยเหลือ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์นำ เตรียมเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ 74 เครื่อง รถบรรทุก 8 คน กระสอบทราย 26,0000 ถุง เรือท้องแบน 22 ลำ และเจ้าหน้าที่ จำนวน 220 นาย สำหรับเตรียมช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย อำนวยความสะดวกประชาชน แจ้งเส้นทางเลี่ยงในเส้นทางที่ไม่สามารถผ่านได้ ตลอดจนเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่ท่วมขัง เพื่อลดผลกระทบ

นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 ขอนแก่น, เขต 7 สกลนคร และ เขต 14 อุดรธานี ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย เครื่องสูบน้ำ ขนาด 14 นิ้ว จำนวน 12 เครื่องเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 20 ลำ เรือกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 4 ลำ รถโมบายยูนิตจำนวน 2 คันรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 5 คัน รถยนต์ดับเพลิงติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล1คัน รถบรรเทาอุทกภัย 1 คันพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดหนองคายด้วย

นายอนุทิน กล่าวว่า ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดหนองคาย ได้ติดตามระดับน้ำในแม่น้ำโขงพร้อมประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง มีการกำชับให้ อ.ศรีเชียงใหม่ อ.เมืองหนองคาย อ.รัตนวาปี อ.สังคม อ.ท่าบ่อ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประชาสัมพันธ์ สถานการณ์นำให้ประชาชนทราบ และแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบสถานการณ์ล่วงหน้า พร้อมในการดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยจังหวัด ยึดหลักการรักษาชีวิตของประชาชนผู้ประสบภัยเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรก ดูแลด้านการดำรงชีพ หากมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ให้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวตามที่ได้กำหนดไว้ในแผนเผชิญเหตุ โดยได้จัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราว ทั้ง 9 อำเภอ จำนวน 44 แห่ง

นอกจากนี้ ได้ประสานการปฏิบัติเตรียมพร้อม กับหน่วยงานทาง ทหาร กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 ภายใต้ มทบ 24 อุดรธานี ที่ดูแลสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดหนองคาย หากมีการร้องขอ โดยเตรียมกำลังพลอำเภอที่ติดริมน้ำโขง อำเภอละ 15 นาย รวม 60 นาย กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี 20 นาย ร้อย อส 30 นาย รวม110 นาย พร้อมยานพาหนะขนย้ายผู้ประสบภัย พร้อมออกปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง

กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1796/2567  วันที่ 14 ก.ย. 2567