วันนี้ (24 ก.ย. 67) นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอศรีสัชนาลัย เปิดเผยว่า อำเภอศรีสัชนาลัยได้ดำเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” เพื่อให้ทุกครัวเรือนได้มีการปลูกพืชผักสวนครัว ส่งผลให้พี่น้องประชาชนลดรายจ่ายครัวเรือน มีอาหารไว้รับประทานอย่างเพียงพอและมีสารอาหารครบถ้วน รวมถึงมีอาหารที่ปลอดภัยไว้รับประทาน พร้อมทั้งขยายผลไปสู่ทุกชุมชนหมู่บ้านและทุกครัวเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันจะนำไปสู่การที่ประชาชนมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
นายเอกสิฏฐ์ฯ กล่าวว่า อำเภอศรีสัชนาลัย ได้บูรณาการร่วมกับนายสันติภาพ อุดมมงคล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสุเม่น คณะครูโรงเรียนบ้านสุเม่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ตำบลแม่สิน และ 7 ภาคเครือข่าย ร่วมขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ตามแนวพระราชดำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โครงการส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่และปลูกผักสวนครัวเพื่ออาหารกลางวันสำหรับนักเรียนโรงเรียนบ้านสุเม่น ประเภทโครงการขยายผลการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกรมการปกครอง โดยคณะอาจารย์ได้นำนักเรียนเก็บผลผลิตทางการเกษตร จากการปลูกผักด้วยวิธีไฮโดรโพรนิกส์ มาเป็นอาหารกลางวัน และนำผลผลิตที่เหลือจำหน่ายให้แก่ผู้ปกครอง และประชาชนในหมู่บ้านที่สนใจ เพื่อเป็นการลดรายจ่ายและสร้างรายได้ ให้กับนักเรียน และโรงเรียนบ้านสุเม่น
นายเอกสิฏฐ์ฯ กล่าวต่อว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นการส่งเสริมให้นักเรียน ได้ลงมือฝึกทักษะปฏิบัติ และเรียนรู้จากประสบการณ์จริง โดยวิธีการปลูกผักไฮโดรโพรนิกส์ ซึ่งเป็นการปลูกผักโดยไม่ใช้ดิน เป็นการปลูกพืชในน้ำที่มีสารละลายอาหารพืชอยู่ ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ และได้รับผักที่มีคุณภาพไม่มีการปนเปื้อนของสารเคมี สำหรับใช้เป็นอาหารกลางวันให้แก่นักเรียน อันเป็นการเสริมสร้าง Passion “การพัฒนาคน” เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนภายใต้การดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนสืบไป
“ขอขอบคุณคณะครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ตลอดจนพี่น้องประชาชนทุกคนที่เป็นส่วนสำคัญทำให้โครงการฯ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในครัวเรือน ชุมชน สังคม และร่วมกันสนับสนุนการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับลูก ๆ หลาน ๆ ของเราในสถานศึกษาตลอดจนถึงชุมชนได้มีแหล่งโภชนาการอันอุดมสมบูรณ์จากแร่ธาตุ วิตามินชนิดต่าง ๆ ด้วยพืชผักสวนครัวและโปรตีนที่สูงจากไข่ไก่ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญให้ลูก ๆ หลาน ๆ ของเรามีร่างกายที่แข็งแรง ทั้งร่างกาย สติปัญญา และมีการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ เป็นประชาชนที่มีคุณภาพในอนาคต ซึ่งจะสามารถต่อยอดไปถึงการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกช่วงวัย ในชุมชนหมู่บ้านและนักเรียนในสถานศึกษาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทำให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี “พอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น” พี่น้องประชาชนสามารถพึ่งพาตนเอง นำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี นำไปสู่การเป็น “หมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village) ที่ประชาชนทุกคนมีความมั่นคงและมีความสุขอย่างยั่งยืน” นายเอกสิฏฐ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1860/2567 วันที่ 24 ก.ย. 2567