เมื่อวานนี้ (29 ก.ย. 2568) ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น บรรยายในหัวข้อ “แนวทางพัฒนาการขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก” ในงานสัมมนาประจำปีคณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ปี 2568 โดยมี คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หัวหน้าคณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐภาคเอกชน พัฒนาการจังหวัด ผู้แทนบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เข้าร่วมการสัมมนา
นายสันติธร กล่าวว่า “เศรษฐกิจฐานรากคือหัวใจ สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน” สร้างรายได้ที่มั่นคงแก่ประชาชน และนำพาประเทศไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ประชาชน ได้ดำเนินการพัฒนาเชิงพื้นที่ (Area-Based Approach) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ กระจายโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิต ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) มาโดยตลอด
“สำหรับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก กระทรวงมหาดไทยได้น้อมนำแนวพระราชดำริ “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นกรอบแนวทางหลักในการทำงาน โดยมีการขับเคลื่อนในหลายมิติ อาทิ การพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) มุ่งเน้นด้านการเกษตร การแปรรูป และการท่องเที่ยวโดยชุมชน ผ่านการเข้าถึงปัจจัยการผลิต การสร้างองค์ความรู้ และการตลาดอย่างครบวงจร ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนภายใต้กลไกประชารัฐ” นายสันติธร กล่าว
นายสันติธร กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชน ผ่านโครงการตามแนวพระราชดำริฯ หลากหลายโครงการ เช่น โครงการ “โคก หนอง นา” การรณรงค์ให้ครัวเรือนปลูกผักสวนครัวอย่างน้อย 20 ชนิด ตามแนวพระราชดำริ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” รวมถึงการยกระดับผ้าไทยและงานหัตถกรรมตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เพื่อสร้างรายได้ เพิ่มมูลค่า และเสริมความภาคภูมิใจในท้องถิ่น ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเชิงสร้างสรรค์ และการขยายตลาดยุคใหม่ เพื่อผลักดันสินค้าไทยสู่เวทีโลก
นายสันติธร กล่าวในช่วงท้ายว่า การขับเคลื่อน SDGs เชิงบูรณาการผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยมุ่งให้ SDGs ไม่เป็นเพียงกรอบนโยบาย แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของประชาชน โดยคณะกรรมการสานพลังประชารัฐจังหวัด (คสป.) ผู้ว่าราชการจังหวัด บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด และภาคีเครือข่าย จะต้องเข้ามาเป็นกลไกหลักในการบูรณาการผลักดันงานเชิงพื้นที่ (Area-Based Success) ร่วมกันพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการตัดสินใจอย่างแม่นยำ และสร้างความสำเร็จที่จับต้องได้อย่างยั่งยืน ท้ายนี้ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจ และหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อเสริมพลังการทำงานร่วมกัน มุ่งสู่เป้าหมาย “ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 797/2568 วันที่ 30 ก.ย. 2568
