วันนี้ (1 ต.ค. 68) เวลา 10.00 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการรับรู้และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพทางด้านการยกระดับและพัฒนามรดกภูมิปัญญาผ้า และหัตถกรรมไทย ตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้งที่ 5 จัดโดย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ณ วินทรี ซิตี้ รีสอร์ต เชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โดยมี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าฯ เชียงราย นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน นายชัชวาลย์ ปัญญา นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด นายศิวะ ธมิกานนท์ นายศิวะกร บัวป้อง รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นางสาวนัชชา บรรณจักร์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ คณะวิทยากร และนักศึกษาผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวนกว่า 100 คน ร่วมงาน
โอกาสนี้ นายอรรษิษฐ์ และผู้ร่วมงาน ได้ร่วมกันรับชมวีดีทัศน์ถ่ายทอดพระกรณียกิจด้านการสืบสานและต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งพระองค์ได้ทุ่มเทพระวรกาย ด้วยพระอัจฉริยภาพ เสด็จไปส่งงานในทุกแห่งหนทั่วทั้งประเทศไทย พร้อมทั้งเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ของไทยไปยังนานาอารยประเทศทั่วโลก จากนั้น นายอรรษิษฐ์ นำผู้ร่วมงานเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา แล้วจึงกล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมุ่งมั่นในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการสืบสานพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านการอนุรักษ์และต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมไทย เพื่อเป็นอาชีพให้กับประชาชนได้สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง โดยเสด็จไปทุกภาค และโปรดให้คณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นโค้ชลงไป coaching ทั้งการตัดเย็บ การให้สี บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ให้มีการพัฒนาขึ้นมากมายในวงการผ้าไทย เรียกได้ว่า พระองค์ทรงยกระดับและสนับสนุนให้เกิดการต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการอย่างเพิ่มพูน
นายอรรษิษฐ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เรามากันที่จังหวัดเชียงใหม่ และพรุ่งนี้คณะจะไปประชุมเชิงปฏิบัติการที่จังหวัดลำพูน ซึ่งตนรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมในวันพรุ่งนี้ เพราะหากย้อนไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตนได้มาดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าฯ ลำพูน เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2560 และได้ใช้ชีวิตเดินทางไปมาระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูนอยู่เสมอ แต่การอยู่ที่ลำพูน ทำให้ได้มีโอกาสไปห่มผ้า “จอมเจดีย์” ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย ซึ่งคนทั่วไปหรือนักท่องเที่ยวจะไม่ทราบว่า ในภาคเหนือของประเทศไทยมี “จอมเจดีย์เพียงแห่งเดียว” อันหมายถึง เจดีย์ที่มีอายุเกินกว่า 1,000 ปี คือ พระธาตุหริภุญชัย เป็น 1 ใน 8 จอมเจดีย์ทั่วประเทศ ที่เมื่อทุกคนเดินทางไปยังจังหวัดลำพูน ต้องไปห่มผ้าเพื่อถวายสักการะเป็นมิ่งมงคลของชีวิต
“การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในวันนี เป็นกิจกรรมที่สำคัญซึ่งน้อง ๆ เยาวชนจะได้ซึมซับรับรู้ว่า เรามีสิ่งที่มีคุณค่าของประเทศไทย ที่บรรพบุรุษของเราได้มอบไว้ให้ และเป็นที่โชคดีว่าพวกเรามีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการส่งเสริมสิ่งที่ดีเหล่านี้ให้ได้รับการต่อยอดควบคู่การส่งเสริมถ่ายทอดการเรียนรู้สู่คนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังมีศิลปินและช่างหัตถกรรมมืออาชีพชั้นนำ มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับพวกเราในวันนี้ด้วย เช่น เชียงใหม่ศิลาดลดอยสะเก็ด อันเป็นงานหัตถกรรมชั้นเลิศคู่เมืองเชียงใหม่ ทั้งหลายทั้งปวงนี้แสดงให้เห็นถึง พื้นฐานของภูมิปัญญาที่ได้รับการสานต่อและต่อยอดให้มีความทันสมัย และยกระดับให้ Worldwide ด้วยความมุ่งมั่นของพวกเราทุกคน” นายอรรษิษฐ์ กล่าว
นายอรรษิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยได้สนองพระกรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ตั้งแต่พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ 36 พรรษา ด้วยการจัดพิมพ์หนังสือเผยแพร่พระอัจฉริยภาพและผลงานภูมิปัญญาการต่อยอดผ้าไทยและงานหัตถกรรมไทย รวมถึงหนังสือ Thai Textiles Trend Book เล่มต่าง ๆ และล่าสุด คือ หนังสือที่จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 39 พรรษา “สิริวัณณวรีนารีรัตนราชพัสตราภรณ์ : แรงบันดาลใจแห่งการสร้างสรรค์ผืนผ้าและหัตถศิลป์ไทยร่วมสมัย” ที่สะท้อนถึงพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลที่พระองค์ทรงมุ่งที่จะเสริมสร้างศักยภาพและผลิตบุคลากรด้านงานผ้าและหัตถกรรมชาวไทยให้เพิ่มมากขึ้น เฉกเช่นเมื่อสมัยก่อนที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ “ปีแยร์ บัลแม็ง” ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศสและผู้ก่อตั้ง “บัลแม็ง” แบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลกในอดีต ได้ออกแบบชุดไทยพระราชนิยม ประกอบกับการที่ทรงเล็งเห็นถึง “ความยั่งยืน” ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) พระองค์จึงทรงเน้นย้ำในเรื่องการย้อมสีธรรมชาติทดแทนสีเคมี และใช้กุศโลบายต่าง ๆ เพื่อทำให้ประชาชนได้หันมาใช้สีธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและร่างกายผู้ผลิตและผู้สวมใส่ เหล่านี้ยังผลเป็นที่ประจักษ์ไปยังสายตานานาอารยประเทศในสากล กระทั่งองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศเชิดชูพระเกียรติคุณและทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญสดุดีพระกรณียกิจด้านการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม การส่งเสริมงานวิจิตรศิลป์ รวมทั้งการขับเคลื่อนวัฒนธรรม ตลอดจน อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568
การประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้ ได้รับเกียรติจากคณะวิทยากรโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ได้แก่ ดร.ศรินดา จามรมาน ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก คุณธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก คุณศิริชัย ทหรานนท์ นักออกแบบและผู้ก่อตั้งแบรนด์ THEATER อาจารย์ ดร.กรกลด คำสุข รักษาการ ผอ.สำนักวิชาการสร้างสรรค์ วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คุณภูภวิศ กฤตพลนารา ผู้ก่อตั้งและดีไซน์เนอร์แบรนด์ Issue อาจารย์ ดร.กิติศักดิ์ เยาวนานนท์ สาขาวิชาการสื่อสารเพื่อการท่องเที่ยว วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อาจารย์ ดร.ฐิศิรักน์ โปตะวณิช สาขาวิชาการออกแบบสื่อปฏิสัมพันธ์และมัลติมีเดีย วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
โดยในช่วงเช้าเป็นการเสวนาถ่ายทอดแนวพระดำริและพระปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทย และในช่วงบ่าย เป็นการแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการผลิตและจำหน่ายผ้าไทย เช่น การทอผ้า การย้อมสี การออกแบบตัดเย็บ การจัดทำบรรจุภัณฑ์ การตลาด การสื่อสารสังคม เป็นต้น
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 801/2568 วันที่ 1 ต.ค. 2568
