วานนี้ (5 ธ.ค. 68) เวลา 15.30 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามการฟื้นฟูพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พล.ต.กรกฎ ภู่โชติ รองแม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายอัธยา นวลอุทัย ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ช่วยราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเกิดศักดิ์ ยะโสธร รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงนายสุพิศ พิทักษธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และพลเรือน ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่ได้ทำหน้าที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และได้สิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ตาม ท่านผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการแม่ทัพภาคที่ 4 รวมถึงกรมการทหารช่าง ยังคงปฏิบัติหน้าที่โดยตั้งฐานปฏิบัติการที่ มทบ.42 เพื่อสนับสนุนภารกิจตามการประกาศสาธารณภัยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอยู่ระหว่างการนำเสนอเพื่อลดระดับเป็นระดับ 3 (ภัยขนาดใหญ่) และจะลดไปเป็นภัยระดับจังหวัด โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ต่อไป
“อุทกภัยหาดใหญ่ครั้งนี้ถือเป็น “ภัย 300 ปี” ที่ชาวบ้านต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่เคยเจอมาก่อน” ซึ่งวันพรุ่งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย จะนำทีมนักวิชาการเข้ามาถอดบทเรียนเพื่อเตรียมการป้องกันสาธารณภัยอันร้ายแรงนี้อย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกันพลวัตการเปลี่ยนแปลงทางสภาวะภูมิอากาศที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะมีหลักการทำงานตามรอบวงจรภัยพิบัติ แบ่งเป็น 1. ก่อนเกิดภัย ต้องมีการเตรียมพร้อม ฝึกซ้อมแผน รวบรวมเครื่องมือและเครื่องจักรกล เพื่อที่จะ 2. ขณะเกิดภัย จะสามารถนำสิ่งเหล่านี้เข้ามาช่วยเหลือได้ทันที และ 3. หลังเกิดภัย ที่กําลังดําเนินอยู่ในตอนนี้ คือ “การฟื้นฟูเยียวยา” นอกจากนี้ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศว่า “ภายใน 7 วัน ทุกคนต้องได้กลับบ้าน” พวกเราทุกภาคส่วนก็ได้ร่วมกัน ทําตามข้อสั่งการท่านนายกรัฐมนตรีจนประสบความสําเร็จ เพราะจากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลาพบว่า ขณะนี้ผู้ที่อยู่ในศูนย์พักพิงจังหวัดสงขลาได้กลับบ้านทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงผู้ป่วยหนัก 18 คน ที่ยังอยู่ในศูนย์พักพิงมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เนื่องจากต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์และพยาบาลที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด” นายอรรษิษฐ์ กล่าว
นายอรรษิษฐ์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับการฟื้นฟูพื้นที่ นายกรัฐมนตรีก็ได้ประกาศต่อสาธารณะว่า “ภายใน 14 วัน หาดใหญ่ต้องสะอาด” ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับกองบัญชาการทหารสูงสุด แบ่งพื้นที่ปฏิบัติการออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 กองบัญชาการทหารสูงสุด โซนที่ 2 กองทัพบก โซนที่ 3 กระทรวงมหาดไทย และโซนที่ 4 กระทรวงคมนาคม ซึ่งทุกหน่วยงานยังคงเร่งดำเนินการเพื่อจัดการขยะ 250,000 ตันออกจากพื้นที่ชุมชนเมืองหาดใหญ่ ด้วยการระดมกำลังจากทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ รวมถึงประชาชนจิตอาสา มาร่วมกันฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง พุ่งเป้าทำให้ภารกิจ “14 วัน หาดใหญ่สะอาด” สำเร็จลุล่วง ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ และขอให้ช่วยกันทำให้การดำเนินการทั้งหมดเสร็จสิ้นภายใน 14 วัน หรือภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2568 ตามข้อสั่งการท่านนายกรัฐมนตรี
“สำหรับเรื่องการตั้ง “ครัวกลางชุมชน” ใน 103 ชุมชน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลนครหาดใหญ่ก็เป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยไม่ให้เกิดความโกลาหลด้านอาหารและเครื่องดื่มสำหรับประชาชน เพราะชุมชนต่างได้ช่วยกันดูแลคนในพื้นที่ตัวเองโดยมีประธานชุมชนเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินงาน นอกจากนี้ เรื่องการเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท ถือว่าดำเนินการได้รวดเร็ว แต่พบว่า ก็ยังมีบางรายที่พบปัญหาการขอรับเงินเยียวยาในระบบ อาทิ การลงทะเบียนผิดพลาดหรือบางรายข้อมูลยังค้างอยู่ในระดับจังหวัดก่อนส่งไปยังกระทรวงมหาดไทย จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้ติดตามเรื่องการส่งข้อมูลให้ครบถ้วนโดยเร่งด่วน” นายอรรษิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้านนายภาสกร บุญญลักษม์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการทำความสะอาดพื้นที่ซึ่งอาจไม่สามารถทำได้แล้วเสร็จในครั้งเดียว เนื่องจากยังมีขยะจากบ้านเรือนประขาชนถูกนำมากองไว้หน้าบ้าน ดังนั้น ขอให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบทุกจุดและเร่งจัดเก็บ เพื่อให้ถนนหนทางสะอาดเรียบร้อย โดยเบื้องต้น จังหวัดได้วางแนวการบริหารจัดการขยะไว้ควบคู่การประสานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องให้เร่งกำจัดขยะตามกระบวนการที่เหมาะสม ไม่ให้ขยะส่งกลิ่นเป็นมลพิษรบกวนประชาชนบริเวณใกล้เคียง พร้อมทั้งให้กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ประเมินปริมาณขยะทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในขณะนี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา มีผลตั้งแต่วันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยยังดำเนินต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ ด้วยกลไกของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ผนึกกำลังร่วมกันเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ ต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูและคืนพื้นที่ให้พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด
นายรัฐศาสตร์ กล่าวว่า จังหวัดสงขลายังคงเร่งดำเนินการด้านการตรวจสอบและจัดส่งข้อมูลการขอรับเงินเยียวยาเยียวยาผู้ประสบภัย 9,000 บาทของประชาชน ทั้งในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และอีก 15 อำเภอ อย่างเต็มกำลัง ทั้งนี้ ภารกิจถัดไปของจังหวัดสงขลา คือ การฟื้นฟูพื้นที่และสิ่งแวดล้อม ทั้งการจัดการน้ำเสีย การสุขาภิบาล การเร่งระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วมขัง เช่น อ.ระโนด และคาบสมุทรสทิงพระที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน แม้ระดับน้ำไม่สูงจนเป็นอันตราย แต่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงการผลักดันน้ำในพื้นที่เกษตรลุ่มต่ำด้วยเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรกลต่าง ๆ โดยโครงการชลประทานได้จัดทีมสำรวจความเสียหาย และในเรื่องสุขภาพอนามัยของประชาชน ทางกรมอนามัยได้เข้ามาดำเนินการ เป็นต้น
“สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังต่อไป คือ จากพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ระหว่างวันที่ 13–18 ธันวาคม 2568 จะมีฝนตกหนักในบริเวณจังหวัดสงขลาต่อเนื่อง จึงขอให้ อ.หาดใหญ่ และเทศบาลนครหาดใหญ่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งด้านสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำ พร้อมเตรียมแผนเผชิญเหตุ โดยใช้เครือข่ายประธานชุมชนทั้ง 103 ชุมชนแจ้งเตือนประชาชน และหากเกิดน้ำหลาก ให้รีบอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่บ้านชั้นเดียวทันที และประชาชนผู้มีความประสงค์จะไปพักอาศัยที่ศูนย์พักพิงทันที โดยทางจังหวัดได้ประสานมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เตรียมความพร้อมศูนย์พักพิงไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ที่อาศัยบ้านสองชั้นขึ้นไป หากประสงค์จะพักอาศัยอยู่ในบ้าน ก็ต้องสร้างการรับรู้จัดเตรียมอาหารและน้ำให้เพียงพอ และหากเกิดเหตุเฉกเช่นที่ผ่านมา ก็ต้องมีการจัดส่งอาหารและน้ำดื่มตามวงรอบอย่างทั่วถึง ซึ่งหากมีการเตรียมพร้อมที่ดี จะสามารถดำรงชีพได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ จังหวัดสงขลาจะประชุมติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ มทบ.42 เป็นที่ประชุม และมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาทั้ง 4 ท่านเป็นผู้ประสานการปฏิบัติต่อไป” นายรัฐศาสตร์ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1033/2568 วันที่ 6 ธ.ค. 2568
