“นายกฯ อนุทิน” นำประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมตั้งกองบัญชาการ ปภ. (ส่วนหน้า) มี “รมช.มท.ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์” เป็นผู้บัญชาการ และรองปลัด มท. “ภาสกร บุญญลักษม์” ทำหน้าที่ ผู้กํากับควบคุมพื้นที่ (Area Commander) บูรณาการสรรพกำลังเร่งทำให้หาดใหญ่กลับสู่ภาวะปกติ โดยเร็วที่สุดภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ พร้อมกำชับเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม
วันนี้ (6 ธ.ค. 68) เวลา 09.50 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ ณ ห้องประชุมต้นปาล์ม ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ต.ท. กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ พร้อมด้วยอธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม และประชุมผ่านระบบออนไลน์
นายอนุทิน เผยว่า เมื่อวานนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ตนพร้อมด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 100 ล้านบาทให้แก่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อฟื้นฟูและจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทดแทนที่เสียหายจากเหตุอุทกภัย และพระราชทานอากาศยานไร้คนขับ (Drone) สำหรับค้นหา และสำหรับขนส่งอาหารกับสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดอื่นในพื้นที่ภาคใต้ จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้บริหารจัดการงบประมาณที่เป็นพระราชทรัพย์นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มกำลังตามที่พระราชทานพระมหากรุณา จึงขอแจ้งให้ทุกคนทุกฝ่ายทราบเพื่อให้พวกเราได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า การทำงานด้วยความทุ่มเทนั้นทราบถึงพระเนตรพระกรรณของพระองค์ตลอดเวลา จึงพระราชทานพระมหากรุณา และพระราชทานชื่นชมต่าง ๆ มามากมายให้กับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกคน
นายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่ทางรัฐบาลได้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมา ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีมีความมั่นใจและรู้สึกได้เลยว่า “ความร่วมมือของทุกคนเป็นไปด้วยความพร้อมเป็นอย่างยิ่ง” เพื่อเป้าหมายคือ การขจัดภัยและความทุกข์ของพี่น้องประชาชน จึงต้องขอขอบคุณผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่ได้ทำหน้าที่ผู้บัญชาการสถานการณ์ฉุกเฉินและได้ร่วมกันบริหารกับทีมงานทั้งหมดได้เป็นอย่างดี และขอขอบขอบพระคุณผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายกเทศมนตรี รวมถึงผู้บริหารจากส่วนกลางทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีทุก ๆ กรม และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ที่ลงมาบัญชาการอยู่ในพื้นที่ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เรามีความร่วมมือและสามารถที่จะคลี่คลายสถานการณ์ได้
แต่อย่างไรก็ดี ณ ตอนนี้เป็นการเข้าสู่โหมด “การฟื้นฟู” ที่ต้องให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์มา เราได้ทำไปมากพอสมควรแล้ว น้ำไฟก็เข้าหมดแล้ว เหลือเพียงการซ่อมแซมระบบต่าง ๆ อีกเล็กน้อย จึงขอเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงให้ความสำคัญและดูแลในเรื่องของอาหารการกินไปอีกระยะหนึ่งหากประชาชนยังต้องการความช่วยเหลือ “อย่าให้มีปัญหาเรื่องอาหารการกิน”
ในส่วนถัดมาคือเรื่อง “ขยะ” ที่ได้ช่วยกันขนย้าย เพื่อไปทำลาย ซึ่งยังเก็บไม่ทัน เพราะว่า มีปริมาณขยะมากมายมหาศาล ทั้งอยู่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพราะทุกคนต่างก็เก็บกวาดขยะแล้วมากองไว้หน้าบ้าน กองไว้ริมถนน เพื่อให้หน่วยงานได้ขนย้ายไปกำจัด ก็ขอให้อย่าท้อถอย ต้องช่วยกันทำให้เขากลับเข้าสู่บ้านเรือนอย่างเรียบร้อย ขอให้ใช้เวลา 1 สัปดาห์หลังจากนี้ในการเก็บขนย้ายขยะไปกำจัดโดยเฉพาะช่วงกลางคืน
ในด้านสาธารณสุข ขอให้กระทรวงสาธารณสุขได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ให้ประชาชนได้รับการดูแลด้านสาธารณสุขไม่ขาดแคลนยา ไม่ขาดแคลนอุปกรณ์และบุคลากร เฝ้าระวังโรคระบาดที่อาจมากับน้ำและโรคติดเชื้ออื่น ๆ ที่อาจจะมาจากการหมักหมมของขยะ รวมถึงสุขภาพจิตด้วย เพราะเหตุการณ์นี้จะทำให้ประชาชนเกิดสภาวะซึมเศร้าหรือท้อใจ จึงขอให้กรมสุขภาพจิตร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลาให้การดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย รวมทั้งเร่งดำเนินการชันสูตรพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เพื่อเร่งดำเนินการเบิกจ่ายเงินเยียวยาค่าทำศพผู้เสียชีวิตให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตโดยเร่งด่วน
ในเรื่องการเคลียร์เส้นทางการจราจร ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงคมนาคม ต้องเร่งคืนเส้นทางให้กับประชาชนให้มากที่สุด โดยเฉพาะทางหลวงเพราะต้องใช้ในการขนส่งสินค้า ขนส่งผู้คนไปยังจังหวัดอื่น ๆ ด้วย และในส่วนของเรื่องการเคลื่อนย้ายรถ ออกจากพื้นที่ ก็สามารถเคลียร์ไปได้จำนวนมากแล้ว ขอให้ดำเนินการ “อุ้มไปเก็บในที่ปลอดภัย” อย่าให้เกิดเหตุที่รถเพียงไม่กี่คันที่พี่น้องประชาชนไม่สามารถมาเอาคืนได้มาเป็นตัวกีดขวางการจราจร
ช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ให้ความร่วมมือในการลงทะเบียนสำรวจ ประชากรรายครัวเรือน ซึ่งจังหวัดสงขลาได้ทำการจ่ายเงินเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนไปแล้วจำนวนมากพอสมควร ซึ่งตอนนี้งบประมาณมีอยู่แล้ว โอนมาแล้ว หากเราสามารถเร่งสำรวจพิสูจน์ได้ เราก็จะสามารถเร่งจ่ายค่าเยียวยาให้กับพวกเขาได้ และหลังจากนี้ก็ต้องไปดูเรื่องการสำรวจความเสียหายของบ้านเรือน เพราะจะมีค่าซ่อมแซมบ้านตามกฎหมายที่เราสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมืองได้นำผู้ที่มีความชำนาญในเรื่องของการสำรวจความเสียหายบ้านเรือนลงมาช่วยกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งสำรวจเพื่อจะเร่งทำการเบิกจ่ายค่าซ่อมแซมบ้านเรือนเคหสถานให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็ว นอกจากนี้ วันนี้ได้เชิญคณะกรรมการถอดบทเรียนและฟื้นฟูสถานการณ์อุทกภัย นำโดย รองนายกฯ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ลงมาดูสถานการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในวันนี้ด้วย และจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการที่จะไปดูแลในแต่ละภารกิจ แต่ละประเด็นต่อไป
“หลังจากนี้ จะเป็นการลดระดับสาธารณภัยเป็นระดับ 3 (ระดับใหญ่) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เป็นผู้บัญชาการ จึงมอบหมายให้นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ทำหน้าที่ผู้บัญชาการ โดยมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นฝ่ายเลขานุการ พร้อมกันนี้ ให้มีการจัดตั้ง “กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า)” ณ ศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา และมอบหมายให้นายภาสกร บุญญลักษม์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน ปฏิบัติหน้าที่ ผู้กํากับควบคุมพื้นที่ (Area Commander) และขอให้ทุกหน่วยงานยังคงบูรณาการระดมสรรพกำลังบุคลากรอุปกรณ์ต่าง ๆ ช่วยเหลือในพื้นที่นี้ต่อไป
สภาพโดยรวมทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งการสนับสนุนของรัฐบาลที่เป็นไปได้ด้วยความรวดเร็ว ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือด้วย รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ยืนยันแล้วว่า จะจัดสินค้าอุปโภคบริโภคมาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนในราคาที่เท่าทุนหรือต่ำกว่าทุน ซึ่งก็จะทำให้ภาระของพี่น้องประชาชนในเรื่องค่าใช้จ่ายลดลงไปด้วย พร้อมฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการลงทะเบียนรับเงินเยียวยาต่าง ๆ ดูแลในเรื่องที่ยังคั่งค้าง หรืออาจเป็นอุปสรรค ทำให้การลงทะเบียนของประชาชนติดขัด เช่น การต้องถ่ายเอกสาร ขออย่าได้เกิดขึ้น
ในช่วงท้าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีข้อสั่งการ ได้แก่
1. ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นตัวช่วยประสานกับกระทรวงและหน่วยงานอื่น ๆ ในการให้ความร่วมมือในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ เพื่อทำการฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ให้เร็วที่สุด
2. ให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมการดูแลด้านสุขภาพประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องโรคที่มากับน้ำภายหลังน้ำลดแล้ว และโรคระบาดที่จะอาจจะมากับขยะที่สะสมเป็นเวลานาน และสุขภาพจิตประชาชน
3. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาต้องใช้งบประมาณที่ทางรัฐบาลได้อนุมัติ 500 ล้านบาทให้เกิดประโยชน์กับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสำนักงบประมาณจะได้พิจารณาอนุมัติรายละเอียดเป็นโครงการ ๆ ไป
4. ในส่วนของรายละเอียดอื่น ๆ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ต้องคอยประสานงานต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น โดยรัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอยู่แล้วในทุก ๆ เรื่องหากมีสิ่งใดก็สามารถสื่อสารและเชื่อมการประสานงานกันได้ ซึ่งก็ได้มีการติดต่อกับทุกท่านในพื้นที่นี้มาโดยต่อเนื่องแล้ว
“อีกเรื่องนึง คือ ต้องเตรียมการให้ดีว่า ติดตามการพยากรณ์อากาศ ถ้ามีโอกาสเกิดฝนตกหนักอีกระลอกในช่วงเดือนธันวาคม ต้องเตรียมการรับมือให้พร้อม องคาพยพต่าง ๆ ทรัพยากรต่าง ๆ ที่อยู่ตอนนี้ ที่ได้จัดหามาในช่วงนี้ ก็ต้องบริหารจัดการให้มีความพร้อมในกรณีที่ถ้าจะมีเหตุการณ์ซ้ำเข้ามาอีก”
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1036/2568 วันที่ 6 ธ.ค. 2568
