วันนี้ (11 ธ.ค. 68) เวลา 09.30 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนประเทศไทย (SOMRDPE Thailand) เป็นประธานการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านการพัฒนาชุมชนและขจัดความยากจนและประเทศคู่เจรจา ASEAN+3 ครั้งที่ 18 (18th SOMRDPE+3) โดยมี เจ้าหน้าที่อาวุโส (SOMRDPE) จากประเทศสมาชิกอาเซียน ผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลี และประเทศญี่ปุ่น ผู้แทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียน ตลอดจนหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วม ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพมหานคร
นายสันติธร กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจาอาเซียนบวกสามได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ และแนวทางการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาชุมชนและการขจัดความยากจนในภูมิภาคของเรา ให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้น
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียนบวกสาม ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การรักษาความมั่นคงทางสังคม การยกระดับศักยภาพท้องถิ่น และการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างใกล้ชิด” นายสันติธร กล่าว
นายสันติธร กล่าวต่อไปอีกว่า ภูมิภาคของเรายังคงเผชิญกับความท้าทายรูปแบบใหม่ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และผลกระทบจากสถานการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนในภูมิภาคโดยตรง
“ตนเชื่อมั่นว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการร่วมกันแลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย องค์ความรู้ และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการทำงานด้านการพัฒนาชุมชนของอาเซียนบวกสามให้ก้าวไปสู่การพัฒนาชุมชนอย่างรอบด้าน และยืนหยัดด้วยพลังความร่วมมือจากประเทศคู่เจรจาอาเซียนบวกสาม ซึ่งทุกท่านจะได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และมิตรภาพที่ดีจากการร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมืออาเซียนบวกสามให้ก้าวหน้าและนำพาประชาชนในภูมิภาคของเราสู่ชีวิตที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนร่วมกัน” นายสันติธร กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1058/2568 วันที่ 11 ธ.ค. 2568
