วันนี้ (14 ธ.ค. 68) นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ครั้งที่ 8/2568 และแถลงข่าวการลดระดับการจัดการสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วย ผู้บริหารกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยนายภาสกร บุญญลักษม์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน ในฐานะผู้กำกับควบคุมพื้นที่ พร้อมด้วยนายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ เข้าร่วมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้รวม 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา รวม 117 อำเภอ 782 ตำบล 6,002 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 1,501,148 ครัวเรือน 4,110,673 คน มีผู้เสียชีวิต 276 ราย และผู้บาดเจ็บ 5 ราย โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง
“นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา และมีคำสั่งยกระดับการจัดการสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลาเป็นสาธารณภัยร้ายแรงอย่างยิ่ง (ระดับ 4) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 โดยบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ จัดตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) และระบบสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) เพื่อบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงานในภาวะวิกฤต จนสถานการณ์น้ำคลี่คลาย ลดระดับความรุนแรง และเข้าสู่ระยะการฟื้นฟูตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 โดยเริ่มดำเนินการ Big Cleaning และทำความสะอาดฟื้นฟูพื้นที่อย่างต่อเนื่อง กระทั่งต่อมาเมื่อสถานการณ์ฟื้นฟูมีแนวโน้มดีขึ้น นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งลดระดับการจัดการสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา เป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2568 พร้อมจัดตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 จังหวัดสงขลา และกำหนดเป้าหมายการฟื้นฟู “7 วัน ประชาชนต้องกลับบ้าน 14 วัน หาดใหญ่ต้องสะอาด” โดยมอบหมายให้ตนปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และมอบหมายให้ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้กำกับควบคุมพื้นที่ (Area Commander) บูรณาการการทำงานของหน่วยงานภายใต้ สปฉ. อาสาสมัคร มูลนิธิ และประชาชนจิตอาสา ร่วมฟื้นฟูพื้นที่อย่างต่อเนื่อง”
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า จากผลการปฏิบัติงานพบว่า หน่วยงานทุกภาคส่วนสามารถช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ได้สำเร็จตามเป้าหมาย ทั้งด้านการดำรงชีพ โดยมีการแจกถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม และจัดตั้งครัวสนามช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้านสาธารณูปโภค ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบสื่อสาร และโครงสร้างพื้นฐาน ได้รับการฟื้นฟูจนสามารถใช้งานได้ตามปกติครอบคลุมทุกพื้นที่ และด้านการฟื้นฟูพื้นที่ซึ่งแบ่งการปฏิบัติงานออกเป็น 4 เขต ได้แก่ เขตที่ 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย เขตที่ 2 กองทัพบก (กองทัพภาคที่ 4) เขตที่ 3 กระทรวงมหาดไทย และเขตที่ 4 กระทรวงคมนาคม โดยปัจจุบันได้ฟื้นฟูทำความสะอาดพื้นที่อำเภอหาดใหญ่แล้วเสร็จตามแผน ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ขระที่ในส่วนของการเยียวยาผู้ประสบภัย ได้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 ในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ปัจจุบันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับธนาคารออมสิน ได้โอนเงินเยียวยาให้ประชาชนใน 9 จังหวัดภาคใต้แล้วรวม 12 ครั้ง ครอบคลุม 1,463,476 ครัวเรือน เป็นเงินทั้งสิ้น 13,171,284,000 บาท โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ได้โอนเงินเยียวยาแล้ว 172,919 ครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 06.00 น.) นอกจากนี้ ยังได้จ่ายเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา รายละ 2,000,000 บาท รวม 11 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 22,000,000 บาท
“ขณะนี้สถานการณ์ที่คลี่คลายแล้ว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ประกาศลดระดับการจัดการสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา จากการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) เป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดกลาง (ระดับ 2) โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด เป็นผู้สั่งการและควบคุมกำกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ พร้อมปิดกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) จังหวัดสงขลา และส่งคืนพื้นที่ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสงขลา ดำเนินการต่อไป”
นายศักดิ์ดา กล่าวในช่วงท้ายว่า เพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ จะยังคงตรึงกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยบางส่วนสนับสนุนจังหวัดสงขลา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมคงการแบ่งพื้นที่ฟื้นฟูเป็น 4 โซน และเพิ่มโซนที่ 5 บริเวณรอบนอกเทศบาลนครหาดใหญ่ บูรณาการกำลังจากหน่วยทหาร จังหวัด ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคอาสาสมัคร เพื่อระดมทรัพยากรและกำลังคนฟื้นฟูพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
“รัฐบาลยังคงติดตามสถานการณ์การช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดสงขลาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด พร้อมขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนทุกท่านกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว และขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร มูลนิธิ ประชาชนจิตอาสา และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสงขลาตั้งแต่ช่วงเผชิญเหตุ การช่วยเหลือเยียวยา จนถึงการฟื้นฟูและส่งคืนพื้นที่ ถือเป็นพลังน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของคนไทย”
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1069/2568 วันที่ 14 ธ.ค. 68
