วันนี้ (16 พ.ค.61) ที่กระทรวงมหาดไทย นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้ดำเนินโครงการพัฒนาประสิทธิ ภาพการอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่ งเป็นชนกลุ่มน้อยออกนอกเขตพื้ นที่จังหวัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิ กส์ เพื่อเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพการอนุญาตให้คนต่างด้ าวออกนอกเขตพื้นที่ควบคุม ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่ควบคุ มและการอนุญาตให้คนต่างด้ าวบางจำพวกที่เข้ามาอยู่ ในราชอาณาจักรเป็นการชั่ วคราวออกนอกเขตพื้นที่ควบคุม ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2559 โดยได้ดำเนินการพั ฒนาระบบการออกหนังสืออนุ ญาตออกนอกเขตพื้นที่ควบคุม และการรับรายงานตัวคนต่างด้าวซึ่ งเป็นชนกลุ่มน้อย ซึ่งจะเริ่มต้นนำร่องให้บริการ ณ ศูนย์บริการประชาชน กรมการปกครอง (วังไชยา) กรุงเทพมหานคร และที่ว่าการอำเภอ จำนวน 29 อำเภอ ใน 7 จังหวัด ประกอบด้วย
(1) จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอ สังขละบุรี
(2) จังหวัดเชียงราย จำนวน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย อำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่สรวย
(3) จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงดาว อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย อำเภอเวียงแหง อำเภอไชยปราการ และอำเภอแม่ริม
(4) จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า อำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย
(5) จังหวัดตาก จำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าสองยาง อำเภอแม่สอด อำเภอพบพระ และอำเภออุ้มผาง
(6) จังหวัดตราด จำนวน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตราด และอำเภอคลองใหญ่
(7) จังหวัดราชบุรี ได้แก่ อำเภอสวนผึ้ง
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการพัฒนาประสิทธิ ภาพการอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่ งเป็นชนกลุ่มน้อยออกนอกเขตพื้นที่จั งหวัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์นี้ เป็นหนึ่งในโครงการมหาดไทย 4.0 ที่กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการปฏิรูประบบราชการ ให้มีความทันสมัย รวดเร็ว ถูกต้อง เพื่อบริการประชาชน ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อดำเนินการแล้ วจะทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และสามารถควบคุมการออกหนังสื ออนุญาตให้คนต่างด้ าวออกนอกเขตพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นการป้องกันการทุจริต ทั้งยั งสามารถตรวจสอบและประมวลข้อมู ลเป็นเชิงสถิติเพื่อใช้ประโยชน์ ในด้านความมั่นคง และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ คาดว่าระบบฯ ดังกล่าว จะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนมิถุนายน 2561 เป็นต้นไป.
ครั้งที่ 108/2561 วันที่ 16 พ.ค.61
