วันนี้ (19 มิ.ย. 2561) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกรรมการและเลขานุ การคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่ อนการพั ฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ได้รายงานผลความก้าวหน้ าการดำเนินโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนี้
ทีมขับเคลื่อนการพั ฒนาประเทศไทยตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตำบล ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความต้ องการของพี่น้องประชาชนและสร้ างการรับรู้ตามกรอบหลัก 10 เรื่องไปแล้ว 3 ครั้ง ครบทุกหมู่บ้าน/ชุมชน จำนวน 8.2 หมื่นแห่ง มีประชาชนเข้าร่วม 8.78 ล้านคน ขณะนี้ทีมขับเคลื่อนฯ ระดับตำบล อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ครั้งที่ 4 ซึ่งได้ลงพื้นที่แล้ว 4.1 หมื่นแห่ง มีประชาชนเข้าร่วมเวทีประชาคม จำนวน 3.9 ล้านคน และจะเสร็จสิ้นการลงพื้นที่ ทำประชาคมในวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ทั้งนี้ การจัดทำแผนงาน/โครงการ ได้เชิญภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคการศึกษาเข้ามามีส่วนร่ วมในการวิเคราะห์ข้อมูล และติดตามโครงการต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้ วยความโปร่งใส รวมทั้งจ้างนักศึกษาช่วยปฏิบัติ งานสนับสนุนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ซึ่งทุกอำเภอได้จ้างนักศึ กษาไปแล้วทั้งสิ้น 5.7 พันอัตรา เพื่อสร้างรายได้ให้แก่นักศึ กษาและส่งเสริมประสบการณ์ ทำงานร่วมกับภาคราชการ
สำหรับความก้าวหน้าการดำเนิ นงานตามพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 วงเงิน 100,358.1 ล้านบาท มีดังนี้ 1) แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศั กยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงิน 2.1 หมื่นล้านบาท โครงการมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิ ตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดำเนินการโดยกระทรวงการคลัง มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคน ขณะนี้ทีมดูแลผู้มีบัตรสวัสดิ การแห่งรัฐ (AO) ได้สัมภาษณ์ผู้มีบัตรสวัสดิ การไปแล้วจำนวน 8.2 ล้านคน จากเป้าหมาย 8.6 ล้านคน มีผู้ประสงค์พัฒนาตนเอง 4.1 ล้านคน 3 ลำดับแรก คือ กลุ่มเกษตรกร 2.99 ล้านคน กลุ่มทำงานมีนายจ้าง 1.31 แสนคน และกลุ่มทำงานอิสระ 9.71 แสนคน และผู้ไม่ประสงค์ที่จะพัฒนา 3.1 ล้านคน ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มนักศึกษาที่เข้าสู่ช่วงปิ ดภาคเรียน และกลุ่มวัยทำงาน และอยู่ระหว่างการประมวลผลข้อมู ลอีก 1 ล้านคน และจะประสานหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อดำเนินการพัฒนาเป็นรายบุ คคลให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิ งหาคม 2561 นอกจากนี้ ยังเปิดให้กลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดิ นทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 ลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ภายในวั นที่ 31 กรกฎาคม 2561 2) แผนงานยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้ างการผลิตภาคการเกษตร วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จั ดเมนูทางเลือก จำนวน 20 โครงการ ใน 4 ด้าน คือ โครงการด้านบริหารจัดการน้ำ โครงการด้านการแก้ไขปัญหาที่ดิน โครงการด้านการปศุสัตว์ และโครงการด้านผลผลิ ตทางการเกษตร ซึ่งได้ส่งมอบให้กับหน่ วยงานในพื้นที่รับสมั ครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการตามลั กษณะต่าง ๆ ทั้งรายกลุ่มหรือสหกรณ์และรายบุ คคล ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ 3) แผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริ มเศรษฐกิจและพัฒนาศักยภาพชุมชน วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท : โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อขั บเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน (หมู่บ้าน/ชุมชนละ 2 แสนบาท) โดย กรมการปกครอง มีหมู่บ้าน/ชุมชนเสนอโครงการทั้ งสิ้น 8.1 หมื่นหมู่บ้าน/ชุมชน จำนวน 90,292 โครงการ อยู่ระหว่างเสนอโครงการ 1,119 หมู่บ้าน/ชุมชน และไม่ขอรับงบประมาณ 327 หมู่บ้าน/ชุมชน ในขณะนี้ อยู่ระหว่าง กบอ.อนุมัติโครงการ ส่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอนุมั ติเห็นชอบแผน และเสนอสำนักงบประมาณให้ความเห็ นชอบต่อไป โดยจะโอนเงินลงหมู่บ้าน/ชุมชน ภายในวันที่ 25 มิถุนายน 2561 ซึ่งหมู่บ้าน/ชุมชนต้องดำเนิ นโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดื อนกันยายน 2561
สำหรับแผนงาน/โครงการที่ เสนอขอรับงบประมาณ แบ่งเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย
1. โครงการประเภทสร้างอาชีพ สร้างรายได้โดยตรง 3 ลำดับแรก ได้แก่ ลานตากผลผลิตทางการเกษตร 2,735 โครงการ การปรับปรุงภูมิทัศน์แหล่งท่ องเที่ยว 454 โครงการ และโรงสี 412 โครงการ
2. โครงการประเภทสร้างอาชีพ สร้างรายได้โดยอ้อม 3 ลำดับแรก ได้แก่ ถนนเพื่อการเกษตร 1,710 โครงการ ขุดลอกสระ ห้วย หนอง คลอง บึง 1,472 โครงการ และลานอเนกประสงค์/ สาธารณประโยชน์ 1,342 โครงการ
3. โครงการประเภทส่งเสริมคุณภาพชี วิต 3 ลำดับแรก ได้แก่ ถนนสัญจรภายในหมู่บ้าน 8,758 โครงการ ศาลากลางบ้าน/ศาลาประชาคม/ อาคารอเนกประสงค์ 5,132 โครงการ และปรับปรุงซ่อมแซมประปาหมู่บ้ าน 3,779 โครงการ ซึ่งทุกโครงการมาจากความต้ องการของประชาชนจากการทำประชาคม อย่างแท้จริง
โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี วงเงิน 9.3 พันล้านบาท โดย กรมการพัฒนาชุมชน ดำเนินการใน 3,273 หมู่บ้าน/ชุมชน ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัด ตามกรอบกระบวนงาน 5 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ ยว การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและสิ่ งอำนวยความสะดวก การพัฒนาสินค้าและบริการด้ านการท่องเที่ยว การเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ ยวแต่ละท้องถิ่น และการส่งเสริมการตลาดชุมชนท่ องเที่ยว ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินโครงการ
โครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุ มชนอย่างยั่งยืนโดยศาสตร์ พระราชาตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท โดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุ มชนเมืองแห่งชาติสนับสนุนเงินทุ นการประกอบอาชีพผ่านกองทุนหมู่ บ้าน 65,670 กองทุน กองทุนละไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งได้ออกระเบี ยบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้ านและชุมชนเมืองแห่งชาติว่าด้ วยการบริหารโครงการพัฒนาหมู่บ้ านและชุมชนอย่างยั่งยืน โดยศาสตร์ พระราชาตามแนวทางประชารัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ แล้ว และจะจัดสรรงบประมาณสนับสนุ นโครงการในช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน 2561
โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทย ในฐานะฝ่ายเลขานุ การคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่ อนการพั ฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ให้ความสำคัญและได้กำกับติ ดตามการดำเนินงานของทีมขับเคลื่ อนฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่ างต่อเนื่อง รวมทั้งเน้นย้ำการดำเนินงานทุ กขั้นตอนต้องเป็นไปด้วยความโปร่ งใส มีประสิทธิภาพ ทุกโครงการต้องมาจากความต้ องการของพี่น้องประชาชนอย่างแท้ จริง เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคการศึกษา เพื่อให้การดำเนินโครงการไทยนิ ยม ยั่งยืน เกิดมรรคผลต่อการพัฒนาประเทศ ในทุกพื้นที่อย่างยั่งยืน.
ครั้งที่ 124/2561 วันที่ 19 มิ.ย. 2561