วันนี้ (31 ส.ค. 68) เวลา 10.10 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” และงานหัตถกรรม ประจำปี 2568 ระดับภาคเหนือ ณ โรงแรมมีเลีย ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โดยมี นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางอรจิรา ศิริมงคล อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางกันยา ปัญญา รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ คณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก และสื่อมวลชน ร่วมพิธี
โอกาสนี้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถวายธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระรูป สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา กล่าวเปิดการประกวด พร้อมเยี่ยมชมผลงานผ้าและงานหัตถกรรมที่ประกวดในระดับภาคเหนือ จำนวน 1,283 ผืน และงานหัตถกรรม จำนวน 174 ชิ้น
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมุ่งมั่นในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ด้วยการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานด้านการอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยพระราชทานแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ให้กระทรวงมหาดไทยน้อมนำมาขับเคลื่อน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชนศึกษาเรียนรู้และถ่ายทอดแนวพระดำริสู่การพัฒนาทักษะของผู้ประกอบการผ้าและงานหัตถกรรมในทุกถิ่นที่ทุกชุมชน รวมทั้งพระราชทานแนวทางในการพัฒนาเทคนิคฝีไม้ลายมือผ่านการประกวดผ้าลายพระราชทาน
“วันนี้เป็นปีที่ 6 ที่เราได้มาประกวดผ้าพระราชทาน ซึ่งในปีนี้เป็น “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” ซึ่งภาคเหนือมีผลงานส่งเข้าประกวดประเภทผ้าจำนวนมากรองจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ผลงารประเภทงานหัตถกรรมมากเป็นลำดับ 1 ด้วยเพราะคนภาคเหนือใจเย็น ‘ต๊ะต่อนยอน’ ทำให้งานหัตถกรรมชิ้นเอกที่มีความสวยงามมีเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ด้วยพระวิสัยทัศน์และสายพระเนตรอันกว้างไกล พระองค์ยังทรงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนที่ไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เพราะในอดีต พี่น้องผู้ประกอบการมักจะใช้สีเคมีเป็นสีย้อมผ้าเนื่องจากมีความสวยงามและสีสันสดใส จึงพระราชทานแนวพระดำริ “Sustainable Fashion” หรือแฟชั่นแห่งความยั่งยืน นำมาสู่การคิดค้นลวดลายและเทคนิคการใช้สีธรรมชาติที่ส่งผลให้ทุกวันนี้ผ้าไทยที่ใช้สีธรรมชาติมีความสวยสดงดงามเพิ่มมากขึ้นไม่น้อยไปกว่าสีเคมี และที่สำคัญ สีธรรมชาติยังมีความปลอดภัยต่อผู้ผลิตและผู้ประกอบการเพราะไม่ต้องเสี่ยงจากสารเคมีอีกด้วย” นายอรรษิษฐ์ กล่าว
นายอรรษิษฐ์ กล่าวอีกว่า พระองค์เสด็จไปทุกแห่งหน ทรงได้สัมผัสกับประชาชนทั่วทุกภาคทั้งเหนือ กลาง อีสาน ใต้ พร้อมทั้งนำคณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกที่เป็นดีไซเนอร์ชั้นนำของประเทศ เป็นปรมาจารย์ด้านผ้า ด้านสีธรรมชาติ ด้านบรรจุภัณฑ์ ด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่เป็นระดับปรมาจารย์ของเมืองไทยไปถ่ายทอดโค้ชชิ่งให้กับประชาชนทำให้เกิดประสบการณ์ที่ผ่านการสั่งสมอย่างยาวนานสะท้อนผ่านผลงานที่เป็นความสำเร็จของผู้ประกอบการหลายคนตลอดห้วงที่ผ่านมา และด้วยพระวิริยะอุตสาหะที่ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระสติปัญญาความสามารถจนเป็นที่ประจักษ์ให้สายตานานาประเทศทั่วโลก องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศเชิดชูพระเกียรติและทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญสดุดีพระกรณียกิจด้านการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม การส่งเสริมงานวิจิตรศิลป์ รวมทั้งการขับเคลื่อนวัฒนธรรม ตลอดจน อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา อันเป็นที่ปลื้มปิติยินดีของพวกเราชาวมหาดไทย ตลอดจนพี่น้องผู้ประกอบการผ้าและงานหัตถกรรมทั่วประเทศ และสิ่งที่นับเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของผู้เข้าร่วมประกวดทุกคน นั่นคือหากใครได้เข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ จะได้รับโอกาสสำคัญของชีวิตในการเข้าเฝ้าถวายรายงานนำเสนอผลงานต่อหน้าพระพักตร์ และจะได้รับการพระราชทานคำแนะนำจากพระองค์โดยตรง
นายอรรษิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ขอให้พี่น้องชาวมหาดไทย ท่านพัฒนาการจังหวัด พัฒนาการอำเภอ และพัฒนากรทุกคน ได้เป็นกำลังสำคัญในการขยายผลการพึ่งพาตนเองตามแนวพระดำริ Sustainable Village อาทิ การปลูกพืชผักสวนครัวตามโครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง การเลี้ยงไก่ไข่ไว้ให้มีไข่บริโภคในครัวเรือน การบริหารจัดการขยะ ทั้งในการประกอบการผ้าและงานหัตถกรรมที่จะต้องไม่ให้หลงเหลือขยะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆหรือทำเป็นปุ๋ยหมักสารบำรุงดินในการเพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารต่อไป เรียกได้ว่า เป็นการน้อมนำพระดำริที่พระองค์ได้พระราชทานเอาไว้อย่างครบวงจร และต้องร่วมกันขยายผลด้วยการสร้างเสริมองค์ความรู้ ผลิตครู ก. ครู ข. ถ่ายทอดต่อไปยังประชาชนในชุมชน ขอให้พวกเราได้เชื่อมั่นว่า สิ่งที่เราทำเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ความเหนื่อยของพัฒนากรมีอยู่แล้ว เพราะกรมการพัฒนาชนใกล้ชิดพี่น้องประชาชนที่สุด พัฒนากรคือคนสำคัญที่จะถ่ายทอดนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชนได้เป็นอย่างดี ขอให้ทำอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมเพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติ และโลกใบนี้อย่างยั่งยืน
นายสยาม กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินโครงการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรม โดยจัดประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” จำนวน 14 ประเภท และงานหัตถกรรม ตามชิ้นงานที่เหมาะสม ซึ่งได้เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. – 14 ส.ค. 68 มีผ้าและงานหัตถกรรมที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 8,903 ชิ้น แบ่งเป็นประเภทผ้า จำนวน 8,336 ผืน และงานหัตถกรรม จำนวน 567 ชิ้น โดยภาคเหนือมีผ้าที่ส่งเข้าประกวด จำนวน 1,283 ผืน และงานหัตถกรรม จำนวน 174 ชิ้น
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 720/2568 วันที่ 31 ส.ค. 2568