วันนี้ (4 ก.ย. 68) เวลา 10.00 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีในฐานะนายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย งในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ห้องประชุมขุนลุมประพาส ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน โดยมี นายกองเอก อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกองเอก นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายกองเอก เชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายกองเอก เอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประชุมและรายงานการเกิดอุทกภัย
องคมนตรี ได้กล่าวถึงการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนของทุกส่วนราชการ โดยฝากให้ทุกส่วนราชการได้ร่วมกันน้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการให้ความช่วยเหลือราษฎรให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ระบบประปา และอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขโดยเร็ว
จากนั้น ในเวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 200 ชุด มอบแก่ผู้ประสบอุทกภัย และมอบให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายอำเภอ จำนวน 795 ชุด ณ สนามกีฬากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเชิญไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้ง 2 พระองค์ได้ทรงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด พร้อมกันนี้ ได้เชิญพระราชกระแสทรงชื่นชมหน่วยงานราชการและจิตอาสาที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และยังได้เชิญถุงพระราชทานสำหรับเด็กซึ่งทรงบรรจุสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นสำหรับเด็ก ได้แก่ ตุ๊กตาผ้าห่ม เป้อุ้มเด็ก นมผง สำลี ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับเด็ก มอบแก่เด็ก อายุตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 2 ขวบ จำนวน 10 คน ส่วนอีก 252 ถุง จะเชิญไปมอบแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบต่อไป นอกจากนี้ องคมนตรี และคณะ ยังได้ลงพื้นที่เชิญสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 5 ครัวเรือน ในพื้นที่หมู่ที่ 12 ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อีกด้วย
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศ สปป.ลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทย มีกำลังแรง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำ กำลังแรง ตามลำดับ เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทำให้พื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 26 – 29 สิงหาคม 2568 โดยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุอุทกภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอขุนยวม และอำเภอแม่สะเรียง ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 27 ตำบล 110 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 7,231 ครัวเรือน บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง 18 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 158 หลัง มีผู้เสียชีวิต 2 คน ผู้บาดเจ็บ 1 คน และผู้เสียหาย 1 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 1,468 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา ได้รับความเสียหาย 96 บ่อ มีสัตว์ที่ตายและสูญหาย 686 ตัว นอกจากนี้ มีถนนสายหลัก 2 สายทาง ถนนสายรอง 4 สายทาง สะพาน 1 แห่ง อ่างเก็บน้ำบ้านห้วยโป่ง โรงเรียน 4 แห่ง และศาสนสถาน 4 แห่ง ได้รับความเสียหายด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางได้ติดตามการบริหารจัดการสาธารณภัย พร้อมเน้นย้ำการดำเนินการป้องกันและให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนในการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนตามระเบียบและกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดสรรวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน การแจกถุงยังชีพตามวงรอบ การประกอบเลี้ยงโรงครัวพระราชทาน รถน้ำดื่ม เครื่องจักรกลสาธารณภัย และการบูรณาการทุกภาคส่วนเข้าซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนรวมถึงระบบไฟฟ้า ประปา ถนนหนทางต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริการด้านการแพทย์และการสาธารณสุขเพื่อป้องกันโรคที่มาจากน้ำ ภยันอันตรายต่าง ๆ รวมถึงเยียวยาสภาพจิตใจของราษฎรที่บ้านเรือนเสียหายให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 736/2568 วันที่ 4 ก.ย. 2568
.
ขอบคุณภาพ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง