วันนี้ (13 ก.ย. 68) เวลา 10.00 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการประกวดผ้าลายพระราชทาน ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์ และงานหัตถกรรม ประจำปี 2568 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ ห้องธนกร 1-2 มณฑาทิพย์ ฮอลล์ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้า นานาชาติ จังหวัดอุดรธานี โดยมี นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางอรจิรา ศิริมงคล อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นางนงลักษณ์ ซุ้นหั้ว ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดอุดรธานี ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน คณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก พัฒนาการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และภาคีเครือข่าย ร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ตนได้กลับมาเยือนจังหวัดอุดรธานี ทำให้นึกย้อนไปถึงเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นเวลา 18 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 – 19 ต.ค. 2558 ก่อนที่จะย้ายไปเป็นรองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และได้ร่วมขับเคลื่อนงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประชาชน และต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด และได้กลับมาเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งได้เดินทางมาเปิดศูนย์จำหน่ายผ้าไทยกลุ่มจังหวัดสบายดี (อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดอุดรธานีแห่งนี้ และในวันนี้ตนมาในฐานะปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มาพบกับมิตรสหายและเพื่อนข้าราชการที่มุ่งมั่นตั้งใจในการสนองพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา อย่างเต็มกำลังความสามารถและต่อเนื่อง
“ทุกคนทราบดีว่า “พระองค์ท่านทรงมาต่อลมหายใจ ทรงมายกระดับการอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าและงานหัตถกรรมไทยให้คงอยู่ด้วยการต่อยอดให้สอดรับกับสมัยนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของผู้ซื้อ ด้วยทรงโปรดให้ศิลปิน นักออกแบบ และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวงจรการผลิตผ้าชื่อดังระดับประเทศได้เดินทางลงไปบ่มเพาะอบรม (coaching) ให้กับพี่น้องประชาชนช่างทอผ้าทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นภาคอันเป็นจุดเริ่มต้นของการอนุรักษ์และต่อยอดมรดกภูมิปัญญาผ้าไทย คือ บ้านนาหว้า ศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงแห่งแรก ที่ได้รับการต่อยอดเป็น “นาหว้าโมเดล” ที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม รวมถึงวิชชาลัยผ้า “ดอนกอยโมเดล” ที่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ยังผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีความสุขที่ได้มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ มีวิชชาลัยผ้าที่รวมองค์ความรู้ด้านการทอผ้า การย้อมสีธรรมชาติที่แต่เดิมสีจืดชืดไม่สดใส จนได้รับการพัฒนาให้มีลวดลายผ้าที่สีสันสวยงามสดใสควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากพระกรณียกิจทั้งปวงนี้อันเป็นความปรารถนาที่ทรงยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาเพื่อให้สิ่งที่ดีงามยังคงอยู่คู่กับประเทศชาติและโลกใบนี้ต่อไปจนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตานานาประเทศทั่วโลก องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศเชิดชูพระเกียรติและทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญสดุดีพระกรณียกิจด้านการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม การส่งเสริมงานวิจิตรศิลป์ รวมทั้งการขับเคลื่อนวัฒนธรรม ตลอดจน อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ที่ได้ทำงานสนองพระกรุณาธิคุณอย่างใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน” นายอรรษิษฐ์ กล่าว
นายอรรษิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประกวดกัน ในวันนี้ สิ่งที่ยากถึงยากที่สุดของคณะกรรมการ คือ เราต้องคัดจาก 2,000 ชิ้นให้คงเหลือ “สุดยอดผ้าภาคอีสาน” เพื่อเข้าสู่รอบ Quarter Final และต้องนำไปรวมกับอีก 3 ภาคเพื่อคัดต่อให้เข้ารอบ Semi Final แล้วจึงจะเข้าสู่รอบ Final ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จะเสด็จเป็นองค์ประธานตัดสินด้วยพระองค์เอง โดยตลอดหลายปีที่พวกเราร่วมกันพัฒนาศักยภาพพี่น้องประชาชนทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า การสั่งสม ฝึกฝน อดทนจนกว่าจะได้รับรางวัลมันยาก การได้แชมป์มันยากแล้ว แต่ “การรักษาแชมป์มันยากกว่า” ซึ่งหากใครได้เป็นแชมป์แล้วก็ต้องรักษามาตรฐานไว้ และทำให้ดียิ่งขึ้นไป เพราะคำว่า “แชมป์” มันคือที่สุดแล้ว แต่สำหรับคนใหม่ ๆ เด็กรุ่นใหม่ คนเข้าประกวดใหม่ ก็จะมีโอกาสได้รับการพัฒนาไปเรื่อย ๆ ซึ่งการประกวดผ้าลายพระราชทานถือเป็นโอกาสที่เราจะได้เห็นศิลปินหน้าใหม่ ๆ ที่ส่งผลงานเข้าประกวดและได้เข้ารอบต่าง ๆ อันเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราชาวพัฒนาชุมชน ในการมุ่งมั่นพุ่งเป้าเพื่อพัฒนาศักยภาพประชาชน นำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนตลอดไป
นายสยาม กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินโครงการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรม โดยจัดประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” จำนวน 14 ประเภท และงานหัตถกรรม ตามชิ้นงานที่เหมาะสม ซึ่งได้เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. – 14 ส.ค. 68 มีผ้าและงานหัตถกรรมที่ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 8,903 ชิ้น แบ่งเป็นประเภทผ้า จำนวน 8,336 ผืน และงานหัตถกรรม จำนวน 567 ชิ้น โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคที่มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดมากที่สุด มีผ้าที่ส่งเข้าประกวด 4,928 ผืน งานหัตถกรรม 147 ชิ้น ผ่านเข้ารอบระดับภาค 2,205 ผืน และงานหัตถกรรม 66 ชิ้น โดยในวันนี้คณะกรรมการตัดสินจะทำการคัดเลือกจากรอบระดับภาคเข้าสู่รอบต่อไป
นายราชันย์ กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานี มีกลุ่มทอผ้า จำนวน 353 กลุ่ม/ราย 1,103 ผลิตภัณฑ์ และในรอบปี 2568 ได้บูรณาการหน่วยงานภาคีภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และประชาชน ขับเคลื่อนโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาเชิงรุก อาทิ การสร้างกระแสการรับรู้การใช้และสวมใส่ผ้าไทยอย่างสม่ำเสมอ การพัฒนาองค์ความรู้และทักษะการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ เส้นใยธรรมชาติจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร การพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ช่างทอผ้าและงานหัตถกรรม (Coaching) การจัดตั้งโรงเรียน OTOP (สถาบันส่งเสริมความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น : OTOP Academy) ศูนย์เรียนรู้กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก และการส่งเสริมการตลาดผ้าไทยในช่องทางที่หลากหลาย ทั้งการจัดงานแสดงและจำหน่ายในงานเทศกาลต่าง ๆ โดยรอบปีที่ผ่านมามีรายได้จากการจำหน่ายผ้า 2,900 ล้านบาทเศษ ก่อให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน
คณะกรรมการตัดสินการประกวดในวันนี้ ได้แก่ ดร. ศรินดา จามรมาน ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก คุณธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก อาจารย์มีชัย แต้สุจริยา ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ทอผ้า) พ.ศ. 2564 คุณกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก ประเทศไทย คุณศิริชัย ทหรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย เจ้าของแบรนด์ THEATRE คุณภูภวิศ กฤตพลนารา (คุณโรจน์) นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ ISSUE ผศ.ดร.รวิเทพ มุสิกะปาน ประธานหลักสูตรแฟชั่น สิ่งทอ และเครื่องตกแต่ง วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ อาจารย์ ดร.กรกลด คำสุข รองคณบดีฝ่ายวิชาการและรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักวิชาการสร้างสรรค์วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ นายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข เจ้าของแบรนด์ WISHARAWISH นายธนาวุฒิ ธนสารวิมล ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ TANDT นายนุวัฒน์ พรมจันทึก ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเส้นใยและการย้อมสีธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และคุณตะวัน ก้อนแก้ว บรรณาธิการนิตยสารโว้ก ประเทศไทย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 753/2568 วันที่ 13 ก.ย. 2568