วานนี้ (7 ต.ค. 68) เวลา 19.20 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดงานมหกรรมไหลเรือไฟโลก จังหวัดนครพนม ประจำปี 2568 และงานยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เรือไฟโลก ณ บริเวณหน้าวัดโพธิ์ศรี ริมแม่น้ำโขง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม โดยมี น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยานายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมแม่บ้านมหาดไทย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายสุรศักดิ์ อักษรกุล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่ โดยมี นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร อปท. ประชาชน และนักท่องเที่ยว กว่า 2,500 คน เข้าร่วม
โดยเมื่อเดินทางถึงบริเวณงาน นายอนุทิน ได้ร่วมเป่าแซกโซโฟนกับกลุ่มเยาวชน และคณะ รับชมการแสดงบินโดรน และแสง สี เสียง สื่อผสมประกอบม่านน้ำ ประเพณีไหลเรือไฟนครพนม หนึ่งเดียวในโลก “แสงไฟแห่งศรัทธา” พร้อมการแสดงพลุรักษ์โลก พร้อมรับชมไฮล์ไลท์ การไหลเรือไฟนานาชาติ และเรือไฟส่งเข้าประกวดจากทั้ง 12 อำเภอ รวมถึงขบวนเรือไฟบกอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
นายอนุทิน กล่าวว่า ประเพณีไหลเรือไฟในค่ำคืนนี้ถือเป็นการเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งความสุขของพี่น้องประชาชนชาวไทย ซึ่งจะเข้าสู่เทศกาลสิ้นปี โดย “ประเพณีไหลเรือไฟ” ของจังหวัดนครพนม ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ที่สำคัญ และถือปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การที่ตนได้มาร่วมงานในวันนี้ ซึ่งก็เคยมาหลายครั้งแล้ว เห็นได้ชัดว่าประเพณีนี้มีพัฒนาการของการจัดงานที่ดีขึ้นมาโดยตลอด และแน่นอนว่าการจัดงานประเพณีไหลเรือไฟในค่ำคืนนี้ไม่ได้เป็นเพียงการจัดงานประเพณีท้องถิ่นเพียงเท่านั้น แต่ได้แสดงถึงศักยภาพของคนไทย ที่ใช้พลังแห่งท้องถิ่น ขับเคลื่อนวัฒนธรรมที่งดงามของประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของตัวจังหวัดนครพนม เกิดการหมุนเวียนและกระจายรายได้สู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
“งานมหกรรมไหลเรือไฟโลกจังหวัดนครพนมในปีนี้ ตนมั่นใจว่าจะสร้างความประทับใจสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขับเคลื่อนจังหวัดนครพนมให้เป็น “Restination” หมายถึง เป็นทั้งจุดหมายปลายทางและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ พัฒนาจังหวัดนครพนมสู่การเป็นเมืองหลักแห่งการพักผ่อนไปอีกรูปแบบหนึ่ง”
“ต้องขอขอบคุณกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และขอชื่นชมคณะกรรมการจัดงาน ศิลปินเรือไฟและพี่น้องชาวจังหวัดนครพนม ตลอดจนพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วม ร่วมแรงร่วมใจอนุรักษ์และสืบสานประเพณีให้ดำรงอยู่เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความคิดอันสร้างสรรค์ ความศรัทธา ความสมัครสมานสามัคคีและดำรงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีของชาวนครพนมและประเทศไทย”
“ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ในจังหวัด อันมีพระพระธาตุพนมเป็นต้น ได้ดลบันดาลให้ทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ จงเปี่ยมไปด้วยความสุขใจ มีความทรงจำที่งดงามตลอดไป และ ”ขอให้ทุกท่านเอาความขมขื่นไหลล่องไปกับแม่น้ำโขง ได้พบเจอแต่ความสุขกันถ้วนหน้า พบเจอแต่ความสมัครสมานสามัคคี และความสุขสวัสดีแก่พี่น้องประชาชนและราชอาณาจักรไทยตลอดไป” นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 829/2568 วันที่ 8 ต.ค. 2568