วันนี้ (8 ต.ค. 68) เวลา 11.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติด โดยมี พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ต.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.สราวุธ ประเสร็จชีวะ รองผู้อำนวยการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. และฝ่ายปกครอง ร่วมแถลง ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติของทุกรัฐบาล ซึ่งตนได่กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป.ป.ส. และฝ่ายปกครอง รวมถึงฝ่ายทหารบูรณาการร่วมกันมาโดยตลอด จึงเป็นเหตุผลของการแถลงการจับกุมตรวจยึดยาเสพติดเป็นประจำ ซึ่งครั้งนี้ได้รับการรายงานจาก ผบ.ตร. ที่สามารถจับกุมยาเสพติดได้เป็นล็อตใหญ่
“รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ไม่ได้ละเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และได้ประกาศเป็นศัตรูกับผู้ค้ายาเสพติดในทุกรูปแบบ และต้องการแสดงให้เห็นว่าผู้ฝักใฝ่หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดต้องได้รับโทษรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้า ผู้ครอบครอง หรือผู้ขนส่ง โทษเท่ากันหมด แม้ว่ามียาเสพติดเพียง 1 เม็ดหรือ 5 เม็ดก็ผิดกฎหมาย เพราะเป็นความผิดฐานครอบครองเพื่อเสพ แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นผู้เสพหรือผู้ขาย ก็ต้องรับโทษ และที่ผ่านมาแม้จะปราบปรามอย่างหนักก็ไม่ได้ทำให้จำนวนยาเสพติดลดลง และยืนยันว่า รัฐบาลยังมีความตั้งใจที่จะทำให้นโยบายยาเสพติดกลับไปที่แม้ครอบครอง 1 เม็ดก็ต้องรับโทษหนัก เพื่อให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการที่จะปราบปรามยาเสพติดให้สิ้นซากไป ควบคู่มิติป้องกัน ปราบปราม ยึดทุกอย่าง มีมาเท่าไหร่เราจับทั้งหมด โดยมอบหมายให้ รอง ผบ.ตร. ลงไปปฏิบัติการระดับผู้ค้ารายย่อยทั้งหมด” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ย้ำว่า ขอเตือนผู้ค้ารายย่อยทั้งหลาย เราบูรณาการไปในระดับชุมชน/หมู่บ้าน ตั้งแต่ชุมชน ตำบล หมู่บ้าน ถ้ายังคิดว่าจะทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด แม้ว่าจะเป็นผู้ค้ารายย่อย แม้ว่าจะมีแค่เม็ดเดียว เราก็จะดำเนินคดีอย่างรุนแรงและเฉียบขาด
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้พี่น้องประชาชนได้ให้ความเชื่อมั่นกับบุคคลฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง ทั้ง ผบ.ตร. ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการ ปปส. บุคคลเหล่านี้ มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อเป็นศัตรูกับยาเสพติดทุกรูปแบบ และไม่มีวันจะหยิบยื่นผลประโยชน์ใด ๆ ก็ตาม เราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบติดตามอย่างใกล้ชิด หากพบมีเจ้าหน้าที่ที่เอื้อต่อการค้ายาเสพติด เราจะลงโทษอย่างถึงที่สุด ทั้งวินัยและอาญา ไม่มีละเว้น นอกจากนี้ ในเรื่องมาตรการดูแลชุมชน เรามีมาตรการอยู่แล้ว โดยมี “ผู้นำชุมชน” และมีการ Re X-ray อย่างต่อเนื่อง เราเชื่อว่าไม่มีหมู่บ้านไหนอยากให้มียาเสพติดอยู่ในชุมชน และหากมีผู้นำชุมชนเข้าไปยุ่ง ก็จะมีโทษหนักเช่นกัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมกันอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น ทั้งพื้นที่ชั้นใน และพื้นที่ชายแดน เพื่อดำเนินการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติดทุกรูปแบบ
ด้าน ผบ.ตร. กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 4–6 ตุลาคม 2568 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เร่งปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดครั้งใหญ่ทั่วประเทศ สามารถขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญได้รวม 4 คดี ผู้ต้องหา 10 ราย พร้อมของกลางยาบ้ารวม 15.78 ล้านเม็ด และอายัดทรัพย์สินจากขบวนการค้ายาเสพติดได้หลายรายการ ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม โดยมีความเด็ดขาดในการสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดตั้งแต่ชายแดนจนถึงพื้นที่ชั้นในของประเทศ
กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จับกุมเครือข่ายสำคัญได้ 1 คดี ที่จังหวัดปทุมธานี ยึดยาบ้า 4.2 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 37 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ท้ายรถยนต์
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญอีก 1 คดี โดยชุดสืบสวนเปิดยุทธการหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถจับกุม “ตั้มกระทุ่มแบน” พร้อมของกลางยาไอซ์ 173 กิโลกรัม และยาบ้าจำนวนมาก
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ภ.5) จับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดได้อีก 1 คดี ที่ด่านห้วยไร่ จังหวัดแพร่ ยึดยาบ้า 6.4 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 25 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระสอบรำข้าว
และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) จับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดอีก 1 คดี โดย ตชด.246 สามารถสกัดจับยาบ้าล็อตใหญ่เกือบ 5 ล้านเม็ด ในพื้นที่ชายแดน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ทำลายเครือข่ายลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากนอกประเทศได้สำเร็จ
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 830/2568 วันที่ 8 ต.ค. 68