เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 68 เวลา 13.00 น. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68 เข้าศึกษาดูกิจการและศึกษาภูมิประเทศภาคการปฐมนิเทศ (กรุงเทพมหานคร) ณ กระทรวงมหาดไทย โดยมี นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายชูชีพ พงษ์ไชย รองปลัดกระทรวงมหาดไทยด้านบริหาร นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมอัษฎางค์ ชั้น 5 อาคารดํารงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย
โอกาสนี้ คณะศึกษาดูงาน หลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 68 ได้ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ณ บริเวณหน้าอาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย จากนั้นรับฟังการบรรยายสรุปการดําเนินงานสําคัญ ในหัวข้อ “ภารกิจ บทบาทหน้าที่ ของหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย ต่อความมั่นคงของชาติ” จากผู้แทนหน่วยงานราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 133 ปี ยึดมั่นในภารกิจ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ของพี่น้องประชาชนชาวไทย โดยมีภารกิจสำคัญครอบคลุมตั้งแต่การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายใน การอำนวยความเป็นธรรมของสังคม การบริหารราชการส่วนภูมิภาค การปกครองท้องที่และท้องถิ่น การกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก การจัดการสาธารณภัย การพัฒนาเมือง รวมถึงงานทะเบียนราษฎร ซึ่งทุกภารกิจล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน
นายศักดิ์ดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการศึกษาดูงานในครั้งนี้ ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นศิษย์เก่าหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 61 ได้ฝากความคิดถึงมายังคณะนักศึกษารุ่นที่ 68 พร้อมมอบแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเน้นให้ผู้บริหารจากทุกภาคส่วนตั้งใจทำงานด้วย “สปิริต” หรือจิตวิญญาณของการทำเพื่อประเทศชาติ มุ่งพัฒนาสังคมและสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนให้มีความสมบูรณ์พูนสุข ด้วยความทันสมัย ทันโลก และทันท่วงที
“สิ่งสำคัญมากที่สุด ในทุกวันนี้การขับเคลื่อนนโยบายสำคัญในทุกระดับไม่ว่าจะของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย หรือกระทรวงอื่นใด จุดแตกหักหรือจุดชี้วัดสำคัญอยู่ที่การดำเนินงานในระดับพื้นที่ จังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น ซึ่งจะสัมฤทธิ์ผลไม่ได้หากขาดการบูรณาการความร่วมมือ สรรพกำลังในการทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่าย ฉะนั้นการอบรม วปอ. จึงเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่า เพราะนอกจากจะได้รับความรู้และประสบการณ์แล้ว ยังได้มิตรภาพจากเพื่อนร่วมรุ่น ที่ในอนาคตจะได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อระดมทรัพยากรเข้าไปช่วยกันบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชนประชาชนอย่างถ้วนหน้า” นายศักดิ์ดา กล่าวเพิ่มเติม
นายศักดิ์ดา กล่าวช่วงท้ายว่า หลักสูตร วปอ. จึงไม่ได้เป็นเพียงหลักสูตรเพื่อการเรียนรู้เท่านั้น แต่เป็นเวทีแห่งการหลอมรวมความคิดและพลังของคนทำงานเพื่อประเทศชาติ ผมเชื่อว่าความสัมพันธ์ของ วปอ. รุ่นที่ 68 จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศหล่อหลอมผู้นำจากทุกภาคส่วน เข้าใจความเชื่อมโยงของปัจจัยด้านความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ให้เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการขับเคลื่อนบ้านเมืองให้มั่นคงและยั่งยืน ตลอดจนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แน่นแฟ้น เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติในระยะยาว
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 928/2568 วันที่ 12 พ.ย. 2568
