วันนี้ (12 พ.ย. 68) เวลา 12.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง โดยมี นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศรีวิไลซ์ หัวหน้าผู้ตรวจตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ ณ โรงเรียนป่าโมกข์วิทยาภูมิ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง
เมื่อเดินทางถึงพื้นที่ นายอนุทิน ได้ติดตามรายงานสถานการณ์ มอบถุงยังชีพให้แก่พี่น้องประชาชนชาว อ.ป่าโมก จำนวน 1,500 ชุด และมอบเกียรติบัตรให้กับประชาชนจิตอาสาที่คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมมาโดยตลอด จากนั้นได้ตรวจสถานการณ์ระดับน้ำบริเวณคันกั้นน้ำด้านหน้าโรงเรียนป่าโมกข์วิทยาภูมิ พร้อมสั่งการภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งบริหารจัดการน้ำสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายอนุทิน กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอกราบขออภัยทุกท่านที่ต้องทำให้พี่น้องประชาชนต้องผจญกับความยากลำบากในสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเราจะไปโทษธรรมชาติอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะว่าเราเป็นรัฐบาลเราต้องมีความรับผิดชอบในการบริหารจัดการให้กับพี่น้องให้ดีที่สุด ตนเข้าใจว่ามันเป็นปัญหาที่เกิดครั้งแล้วซ้ำเล่าเป็นความทุกข์ที่เกิดกับเราในฐานะที่เป็นคนลุ่มน้ำเจ้าพระยา ต้องทรัพย์สินเสียหายพี่น้องต้องขนของหนีน้ำ ตกอยู่ในสภาวะน้ำท่วม ตนพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้เกิดการระบายน้ำมากที่สุด ทุกเสียงสะท้อนจากทุกท่านขอให้มั่นใจว่าเราได้ยินและเรารับทราบรับรู้และเร่งหาผลทางช่วยเหลือทุกวิถีทางที่จะทำได้
“รัฐบาล กำลังเร่งจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ให้แก่ทุกครัวเรือน หลังคาเรือนละ 9,000 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบแก่พี่น้องประชาชน ซึ่งหากมองในความเป็นจริงแล้ว เงินจำนวนนี้มีมูลค่าไม่มากเลย และคงไม่มีใครอยากแลกกับความเดือดร้อนที่ต้องประสบเจอจากน้ำท่วม เพราะชีวิตปกติสุขคือสิ่งที่มีค่าที่สุด”
นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ผมต้องขอบคุณในหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของทุกท่าน ที่ต้องเสียสละพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อใช้เป็นพื้นที่รับน้ำ ต้องเสียโอกาสการผลิตพืชผลทางการเกษตร ทำไร่ทำนา และต้องเป็นผู้ที่ปล่อยให้น้ำท่วมผลผลิตของตนเอง เกิดความเสียหายในเขตเศรษฐกิจและทำให้จังหวัดอื่นได้รับความเสียหาย ภาคส่วนอื่นเสียหายตามไปด้วย โดยวันนี้ตนได้หารือกับคณะรัฐมนตรี เบิกจ่ายงบประมาณมาทดแทนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่มีหัวใจเสียสละเพื่อส่วนรวมในครั้งนี้จนกว่าสถานการณ์น้ำจะกลับสู่ภาวะปกติ เพราะตอนนี้น้ำมันท่วมมาหลายเดือนแล้วต้องเป็นหน้าที่รัฐบาลที่เราต้องช่วยเหลือ แต่ไม่ใช่เพียงแค่ให้เพราะชาวป่าโมกชาวอ่างทองเท่านั้น แต่จะต้องเร่งเยียวยาช่วยเหลือทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบที่พี่น้องชาวไร่ชาวนาต้องสละสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้ในการผลิตพืชผลทางการเกษตรด้วย
“ในส่วนของการดูแลช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ ตนได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งหน่วยกู้ภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เราจะต้องอยู่ในพื้นที่ตลอด 24 ชม. เพื่อบรรเทาทุกข์จัดหาสถานที่พักพิงชั่วคราวและจัดหาของกินของใช้สิ่งของที่จำเป็นให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ให้พ่อแม่พี่น้องได้สามารถดำรงชีวิตท่ามกลางช่วงวิกฤตของภัยธรรมชาติในครั้งนี้ โดยหวังว่าช่วงใกล้ปลายเดือนนี้ฝนคงจะเบาบางลงและเราจะได้ทำงานเป็นทีมวางแผนร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกัน เร่งระบายน้ำให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายว่า ผมขอส่งมอบความห่วงใยให้กับพี่น้องประชาชนทุกท่าน และขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่ยังคอยให้กำลังใจกับพวกเราในการทำหน้าที่เสมอ สิ่งเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นเสียงบ่นหรือเท่าสียงด่าท่านสามารถระบายใส่พวกผมได้เสมอเพราะเราพร้อมที่จะรับฟังความทุกข์ร้อนของท่านและนำไปปรับแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด รัฐบาลพร้อมที่จะจับมือพี่น้องประชาชนทุกท่านเพื่อข้ามผ่านวิกฤติอุทกภัยในครั้งนี้ไปด้วยกัน
ทั้งนี้ ภายหลังจากการให้กำลังใจประชาชน นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการดำเนินโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชน ในอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ตั้งแต่ชุมชนป่าโมกถึงชุมชนโผงเผง ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย งบประมาณรวม 2,150.30 ล้านบาท โดยหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถป้องกันน้ำท่วม 9.88 ตารางกิโลเมตร ประชากรได้รับประโยชน์ 39,003 คน 13,468 ครัวเรือน ดำเนินการเป็น 8 ช่วง ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งในขณะนี้ยังคงเหลือพื้นที่อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 2 ช่วง คือ ชุมชนป่าโมก ระยะที่ 3 (ปี 2569-2571) พื้นที่ป้องกัน 1.32 ตารางกิโลเมตร และพื้นที่ชุมชนโผงเผง ระยะที่ 5 (ปี 2568-2570) พื้นที่ป้องกัน 2.14 ตารางกิโลเมตร จึงจะเสร็จสมบูรณ์
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 930/2568 วันที่ 12 พ.ย. 2568
