วันนี้ (14 พ.ย. 68) เวลา 09.30 น. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดกิจกรรม 111 ปี การประปาไทย บริการน้ำดื่มสะอาดฟรี ณ สำนักงานประปาสาขาตากสิน การประปานครหลวง ถ.พระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ โดยมี นายฉันทานนท์ วรรณเขจร ประธานกรรมการการประปานครหลวง นางสาวสุวรา ทวิชศรี ผู้ว่าการการประปานครหลวง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารการประปานครหลวง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปานครหลวง ประชาชนผู้รับบริการ และสื่อมวลชน ร่วมในพิธี
โอกาสนี้ นายศักดิ์ดา ได้ Kick Off รองน้ำจากก๊อกน้ำประปาใส่ขวดและดื่มร่วมกับผู้บริหารการประปานครหลวง เพื่อเป็นการยืนยันถึงความพร้อมการให้บริการ และหลังจากนั้นพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตบริการได้มาต่อแถวรองน้ำประปาดื่มด้วยความตื่นเต้นและดีใจ จากนั้น รมช.มหาดไทย พร้อมผู้บริหารได้เดินตรวจเยี่ยมการให้บริการประชาชนผู้ใช้บริการบริเวณสำนักงานบริการลูกค้า พร้อมพูดคุยสอบถามและรับฟังคำแนะนำข้อเสนอแนะจากประชาชนผู้รับบริการ และมอบขวดน้ำประปาดื่มได้ให้กับประชาชนผู้รับบริการที่เดินทางมาใช้บริการในช่วงเวลาดังกล่าว และได้เยี่ยมชมพัฒนาการของการประปานครหลวงในด้านต่าง ๆ ภายในบริเวณ พื้นที่ 6 ไร่ของสำนักงานการประปาสาขาตากสิน
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า “ตนดีใจที่ได้เห็นการประปาที่นอกจากจะทำภารกิจการขายน้ำแล้วยังมีการบริการน้ำฟรีให้ประชาชน” เพราะในช่วงที่ตนรับราชการที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลก็ได้ริเริ่มแสวงหาน้ำให้ประชาชนดื่มฟรีในชนบท เนื่องจากในอดีตชีวิตของคนไทยแถวภาคตะวันตกและภาคกลาง ตั้งแต่เราเป็นเด็กเราจะรองน้ำฝนมาดื่ม และถ้าน้ำฝนบางปีไม่พอหรือพอเดือน 12 น้ำทะเลหนุนสูง น้ำจากเขาใหญ่ไหลมาบางปะกงปะทะกับน้ำทะเล ก็ส่งผลกระทบต่อน้ำกิน คนก็จะใช้น้ำจากการรองใส่ในตุ่ม จนกระทั่งได้ห้วง 30-40 ปีนี้ ผลกระทบจากสภาวะอากาศและมลพิษต่าง ๆ เมื่อประชาชนเริ่มไม่มั่นใจว่า “น้ำสะอาดพอหรือเปล่า น้ำฝนที่ตกลงมาหลังคาจะสะอาดหรือไม่” จึงมีการผลิตน้ำใส่ขวด เดิมคือ “โพลา” จนกระทั่งพัฒนาการไปเรื่อย ๆ มีน้ำแร่ น้ำอะไรต่าง ๆ ขายในประเทศไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่เราจะต้องเสียเงินทุกวัน
“ทุกวันนี้ ตนไปต่างจังหวัดหรือว่าในกรุงเทพฯ ถามผู้คนว่า ใครดื่มน้ำฝนบ้าง คำตอบที่ได้ คือ “ไม่มีเลย” ตนไป 76 จังหวัด ทุกคนก็ซื้อน้ำดื่มหมด ไม่ว่าอยู่ในชนบทหรืออยู่ที่ใดก็ตาม แม้แต่คนชาติพันธุ์ที่อยู่ในป่าในเขาหรือกะเหรี่ยง ม้ง แม้ว ต่าง ๆ ซื้อน้ำดื่มทั้งหมด ไม่มีใครรองน้ำฝนดื่มเลย ดังนั้น เมื่อซื้อก็ต้องเสียสตางค์ วัน ๆ นึง คนไทยโดยเฉลี่ยเสียเงินวันละประมาณ 10 บาท หรือมากกว่านั้น เพื่อซื้อน้ำดื่ม เดือนนึงก็ 300 บาท ถ้าในบ้าน ในครอบครัวมี 4 คนก็เดือนละ 1,200 บาท 12 × 12 ก็ 144 ปีนึงเสียเงินซื้อน้ำดื่มประมาณ 15,000 บาท ซึ่งสำหรับพวกเราเงินนี้อาจไม่มาก แต่ถ้าเป็นคนที่รับจ้าง แรงงานหรือคนที่หาเช้ากินค่ำ ตนเชื่อว่าเขาเดือดร้อนมาก เดือดร้อนมากแค่ไหน ก็ลองคิดดูว่าการหยอดกระปุกออมสิน 15,000 บาท มันมากจริง ๆ“
นายศักดิ์ดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอชื่นชมและขอขอบคุณการประปานครหลวง ที่ได้นำนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งท่านได้ริเริ่มไว้ตั้งแต่เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ขับเคลื่อน “บ้านน้ำดื่ม” ซึ่งหากทางราชการมีบ้านน้ำดื่มเฉกเช่นที่เราได้จัดกิจกรรมวันนี้ในทุกพื้นที่ ก็จะเป็นการช่วยลดรายจ่ายของพี่น้องประชาชน ทำให้เขารู้สึกว่า เขาไม่ต้องเสียภาระในสิ่งนี้ และการดำเนินการสิ่งนี้นอกจากจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการแล้ว ยังจะเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนต่างจังหวัดที่เดินทางเข้ามาในเขตของการประปานครหลวงด้วย ถือเป็นบริการสาธารณะของรัฐที่มีประโยชน์ยิ่ง
นายศักดิ์ดา ยังได้เน้นย้ำในช่วงท้ายว่า สิ่งที่การประปานครหลวงหรือแม้แต่ภาคราชการจะต้องคำนึงอีกประการหนึ่ง คือ เมื่อเวลาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก หรือเวลาทำพิธีเปิด มันดูเรียบร้อยดี แต่การดูแลรักษาหรือทำความสะอาด ดูแลระบบเพื่อให้มันใช้งานได้ทุกวัน 24 ชั่วโมง เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า เพราะการทำให้ประชาชนมั่นใจมันเป็นเรื่องที่ยาก จึงฝากทุกคนที่มีหน้าที่ “ต้องทำให้มันมีประสิทธิภาพและใช้ได้ทุกเวลา” เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจและมีความรู้สึกดีที่ได้รับบริการจากรัฐ และหากมีสิ่งใดเพิ่มเติม ก็ขอให้พวกเราได้ร่วมกันนำเสนอและต่อยอดเพื่อให้สามารถ “ลดรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน” เพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืนของพี่น้องประชาชน
ด้าน ผู้ว่าฯ กปน. กล่าวว่า กิจการประปาเกิดขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2457 จากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระประสงค์ให้พสกนิกรมีน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งจากวันนั้น…ถึงวันนี้ การประปานครหลวงยังคงมุ่งมั่น และให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนการผลิตน้ำประปาที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน จึงเป็นที่มาของการดำเนิน “โครงการน้ำดื่มสะอาดเพื่อประชาชน” โดยให้บริการน้ำดื่มสะอาดฟรีสำหรับประชาชนเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาน้ำดื่มของประชาชน ซึ่งปัจจุบัน การประปานครหลวง ให้บริการน้ำดื่มสะอาดปลอดภัยฟรี อย่างต่อเนื่องตลอดมา โดยมีจุดให้บริการน้ำดื่มสะอาดเพื่อประชาชน 173 แห่ง ครอบคลุมสำนักงานประปาสาขาทุกพื้นที่บริการ โดยให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดมา
ในวันนี้ ถือเป็นวันครบรอบ 111 ปีแห่งการก่อตั้งการประปาไทย การประปานครหลวงจึงได้ดำเนินการจัดทำจุดให้บริการน้ำดื่มสะอาดพรีเพื่อประชาชน เพื่อให้ประชนสามารถเข้ามารับน้ำดื่มสะอาดได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า “น้ำทุกหยดมีมาตรฐาน ปลอดภัย” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 939/2568 วันที่ 14 พ.ย. 2568
