วันนี้ (23 ต.ค. 65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากนโยบายการทำสงครามกับยาเสพติด หลายพื้นที่ได้ดำเนินการป้องกัน สกัดกั้น ตรวจค้น Re X-Ray และฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดอย่างเข้มข้น และจริงจัง โดยกระทรวงมหาดไทยเน้นการขับเคลื่อนและบูรณาการร่วมกับ ทุกกลไกและทุกภาคีเครือข่าย เพื่อไม่ให้ยาเสพติดมีที่ยืนในสังคมไทย ส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ปลอดภัย และเป็นสังคมแห่งการให้โอกาสในการคืนคนดีสู่สังคมภายหลังจากการบำบัดรักษาแล้ว ซึ่งในวันนี้ได้รับรายงานผลการปฏิบัติจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศโดยมีกรณีที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ที่จังหวัดขอนแก่น วันนี้( 23 ต.ค. 65 ) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด เข้ามาในเขตพื้นที่ จึงได้ออกตรวจพื้นที่ พบรถยนต์ต้องสงสัยวิ่งมุ่งหน้าทาง อ.หนองสองห้อง ซึ่งผู้ขับขี่ได้ทำการหลบหนี สุดท้ายรถของผู้ต้องหาได้เสียหลักตกถนน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบชายจำนวน 2 คน แต่สามารถวิ่งหลบหนีไปได้ 1 คน ตรวจสอบภายในรถ พบของกลาง ยาบ้า จำนวน 720,000 เม็ด โดยผู้ต้องหายอมรับว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขนยาบ้า จาก จ.นครพนม มาส่งที่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ด้วยค่าจ้าง 20,000 บาท ตำรวจชุดจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2. ที่จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 65 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ภายใต้การอำนวยการของ พลตรี นรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 (พล.ร.3) สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ร่วมกับ สถานีเรือนครพนม หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม, กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237, ฝ่ายปกครองอำเภอท่าอุเทน และตำรวจภูธรท่าอุเทน ร่วมกันทำการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 18,000 เม็ด บริเวณริมแม่น้ำโขงท้ายบ้านตาลปากน้ำ หมู่ที่ 2 ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ซึ่งได้รับการแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าว ว่าจะมีการลักลอบขนย้ายยาเสพติดจากฝั่ง สปป.ลาว มาส่งยังฝั่งไทย ในพื้นที่ บ.ตาลปากน้ำ หมู่ที่ 2 ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จึงได้จัดกำลังเข้าทำการซุ่มเฝ้าตรวจริมแม่น้ำโขงในพื้นที่ดังกล่าว พบถุงพลาสติกสีดำในพงหญ้าห่างจากริมฝั่งประมาณ 7 เมตร บริเวณพื้นที่จอดเรือ จึงได้ทำการพิสูจน์ทราบพบข้างในเป็นยาบ้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการซุ่มเฝ้าตรวจ แต่ไม่มีบุคคลต้องสงสัยเข้ามารับยาบ้าดังกล่าว จึงได้ทำการประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมทำการตรวจยึดยาบ้า และนำของกลางทั้งหมดส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และในวันเดียวกันภายใต้การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ “ยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง” จังหวัดนครพนม นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และสมาชิก อส. ร่วมกันจับกุมนางนิ่ม (นามสมมติ) อายุ 42 ปี สัญชาติไทย พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 1,040 เม็ดโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ซึ่งได้นำตัวผู้กระทำความผิดพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
3. ที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 65 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้มอบหมายให้นายสกุล ดำรงเกียรติกุล ปลัดจังหวัดกระบี่ และอำเภอเหนือคลอง นำโดยนายเศวตฉัตร สุวรรณรัตน์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และสมาชิก อส. ร่วมลงพื้นที่อำเภอเหนือคลอง เพื่อดำเนินการค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ผู้ค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด (Re X-Ray) ในพื้นที่ตำบล/หมู่บ้าน ซึ่งเป็นร้านขายของชำ โดยสามารถจับกุมนางสาวจริญณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 17 เม็ด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า จำหน่ายโดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองขนาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับกรณีนี้ เป็นอุทาหรณ์ที่สำคัญ สำหรับกรณีร้านค้าร้านสะดวกซื้อทั่วไป เนื่องจากร้านขายของชำสามารถเเพร่กระจายสู่สาธารณชนได้ง่าย หากมีการพบเห็นดั่งเช่นกรณีนี้จะดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุดโดยไม่มีการงดเว้นโทษแต่อย่างใด
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ในหลาย ๆ พื้นที่ได้เข้าตรวจสถานบริการอย่างจริงจังและเข้มข้น อาทิ เมื่อคืนที่ผ่านมา จังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองบูรณาการกับตำรวจพื้นที่เข้าเข้าตรวจผับกลางเมืองพัทยา “คลับวันพัทยา” ซึ่งเปิดเกินเวลาและลักลอบเสพยาเสพติด ซึ่งได้สั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดแล้ว เป็นต้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของกระทรวงมหาดไทย และขอขอบคุณที่ทุกท่านช่วยแจ้งเบาะเเสให้แก่เจ้าหน้าที่จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้สำเร็จในหลายพื้นที่ที่ได้กล่าวไปแล้วเบื้องต้น
“นอกจากนี้ ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้มีการดำเนินการขับเคลื่อนกิจกรรมและมาตรการในการป้องกันปราบปรามปัญหายาเสพติด อาทิ การตั้งด่านชุมชน (จุดตรวจ/จุดสกัด) ในช่วงวันหยุดยาว รวมไปถึงการลงพื้นที่ติดตามผู้ที่อยู่ระหว่างการเข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาล และผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษา เป็นต้น ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นที่จะกวาดล้างและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย ซึ่งพี่น้องประชาชนทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้สังคมไทยเต็มไปด้วยความรัก ความสามัคคี และสังคมแห่งการให้โอกาส ดังนั้น หากพบเห็นเบาะเเสการกระทำความผิด หรือบุคคลผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดภัยแก่สังคมโดยรวม หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขอความกรุณาช่วยแจ้งเบาะเเสยาเสพติดให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ ทั้งแจ้งผ่านนายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หรือ ผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ไม่เว้นวันหยุดราชการ ขอเชิญมาร่วมสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากยาเสพติดเป็นสังคมที่มีความเข้มแข็งและยั่งยืนไปด้วยกัน” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวทิ้งท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 45ุ6/2565 วันที่ 23 ต.ค. 65
