เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 65 นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอวังเจ้า เปิดเผยว่า นักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นำการเปลี่ยนแปลง ระดับอำเภอ กรมการปกครอง รุ่นที่ 1 ได้บูรณาการร่วมกับผู้นำท้องที่ตำบลนาโบสถ์ “ผู้นำทำเป็นตัวอย่าง” นำโดยนายอนุรักษ์ นิลน้อย กำนันตำบลนาโบสถ์ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนัน ร่วมกันขับเคลื่อนการรณรงค์ส่งเสริมการปลูกฝังจิตสำนึกในการคัดแยกขยะ โดยการนำเศษอาหารมาทิ้งให้ถูกที่ ในกิจกรรม “ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน” ในพื้นที่ตำบลนาโบสถ์ ซึ่งภายในงานมีการจัดกิจกรรมการสาธิตการทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ด้วยถังหรือเศษวัสดุเหลือใช้ เพื่อรองรับการนำเศษอาหารเหลือทิ้งจากครัวเรือน หรือขยะอินทรีย์มาใส่ในถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อเป็นต้นแบบและขยายผลการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอวังเจ้า และในพื้นที่จังหวัดตากต่อไป
นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอวังเจ้า กล่าวว่า กิจกรรมเมื่อวานนี้ได้มีการเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมกันจัดทำ “ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน” ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงของการจัดทำถังขยะเปียกในพื้นที่อำเภอวังเจ้าให้ครบทุกครัวเรือน นอกจากจะเป็นการบริหารจัดการขยะอย่างถูกวิธี โดยการกำจัดขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปหลุมฝังกลบและช่วยในการย่อยสลายของขยะอินทรีย์ ให้กลายเป็นปุ๋ยที่นำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร สามารถเปลี่ยนขยะให้มีมูลค่า ยังเป็นการช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs เพื่อจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ยั่งยืนในทุกมิติ ตลอดจนในด้านเศรษฐกิจซึ่งจะช่วยเป็นการส่งเสริมการลดรายจ่าย สร้างรายได้ ของภาคครัวเรือนได้ อีกทั้งยังเป็นการพึ่งพาตนเอง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สร้างบันได 9 ขั้น สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ยกระดับพื้นที่ด้วยการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จนเกิดความเจริญยั่งยืน และที่สำคัญที่สุด คือ การได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมจากการลดการผลิตก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ดังนั้น ความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องประชาชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมาย ทำให้โลกใบนี้ได้อยู่กับลูกหลานอย่างยั่งยืน
นายเอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอวังเจ้า กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการครั้งนี้ ยังเป็นการสนองนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจนของประชาชนในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุกช่วงวัย ตลอดจนการขับเคลื่อนเป้าหมายตามการประกาศเจตนรมณ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้สามารถบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนตามนโยบายของรัฐบาล ที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงต่อที่การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ณ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ว่า “ประเทศไทยพร้อมยกระดับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเต็มที่ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” และการประกาศเจตนารมณ์ของผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย นำโดยท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พิธีลงนามประกาศเจตนารมณ์เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน (Statement of Commitment to Sustainable Thailand) โดยมี คุณกีต้า ซับบระวาล (Gita Sabharwal) ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทยร่วมเป็นสักขีพยาน ด้วยแนวคิด Change for Good และคำมั่นสัญญา “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อการพัฒนา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน เพื่อคนไทยกว่า 69 ล้านคน ร่วมกับสหประชาชาติ “โลกนี้เพื่อเรา” ให้เกิดผลที่เป็นเชิงประจักษ์แก่สายตาประชาคมโลก
#GlobalSoilPartnership #UNFAO #SEPtoSDGs #WorldSoilDay #วันดินโลก #soilswherefoodbegins #Soils4Nutrition #FAO #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 609/2565 วันที่ 8 ธ.ค. 65