เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 65 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย มีภารกิจในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ปัญหายาเสพติด” ที่เป็นปัญหาส่งผลกระทบทั้งด้านความมั่นคง ด้านสังคม ที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นปัญหาเรื้อรังมาอย่างยาวนาน ดังนั้น การขจัดปัญหายาเสพติดจึงเป็นภารกิจที่สำคัญ ที่ต้องอาศัยความร่วมมือเเละบูรณาการจากทุกภาคส่วน มุ่งมั่นเพิ่มความถี่และความเข้มข้นในมาตรการต่าง ๆ ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ฯลฯ เพื่อเดินหน้ากวาดล้างยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย พร้อมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ความรู้ และเตรียมพื้นที่รองรับการบำบัดผู้ติดยาเสพติดเรื้อรัง เพื่อลดจำนวนผู้เสี่ยงในระบบ และกลุ่มเสี่ยงที่อาจตกเป็นเหยื่อของยาเสพติด โดยในวันนี้ได้รับรายงานผลการปฏิบัติงานจากหลายจังหวัดขอยกตัวอย่างมานำเสนอเพื่อเป็นกำลังใจให้เเก่เจ้าหน้าที่ และผู้อยู่เบื้องหลังในการปฏิบัติงาน ดังนี้
1) จังหวัดหนองคาย โดย พ.อ.สุริวัชร์ อัครพรเดชาพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 21/ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 มอบให้ ร.ท.วิทยากร ศักดิ์ดาเดช ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้สนธิกำลังร่วมกับ นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม นรข. สถานีเรือสังคม ตำรวจ สภ.สังคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ จัดกำลังเข้าดักซุ่ม จุดเป้าหมาย ที่คาดว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะใช้เป็นช่องทางนำเข้ายาเสพติด ต่อมา ตรวจพบเรือต้องสงสัยจากฝั่ง สปป.ลาว มุ่งหน้ามาฝั่งไทย และเข้าจอดที่บริเวณท่าเทียบเรือ บ้านน้ำไพร ต.สังคม อ.สังคมฯ มีชายต้องสงสัยเดินขึ้นมาจากเรือ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น ชายต้องสงสัยเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ตกใจวิ่งเข้าป่าหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบภายในเรือ พบกระสอบต้องสงสัยสีขาวพบภายในบรรจุยาบ้าห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน 2 มัด โดยได้ตรวจยึดนำมาทำการตรวจนับยาบ้าได้ จำนวน 43,579 เม็ด ก่อนนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังคม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีเจ้าหน้าที่ทราบตัวแล้วเป็นชาย อายุ 50 ปี ชาวบ้านน้ำไพร อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
2) จังหวัดชัยภูมิ ปูพรมตรวจค้นกวาดล้างยาเสพติด เพื่อค้นหาผู้ค้า ผู้เสพ และผู้ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง หลังทำประชาคม และได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านเป็นจำนวนมาก โดย น.ส.อัจฉรา อาษาสู้ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอภักดีชุมพล/นายอำเภอภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ มอบหมายให้ จ่าสิบโทอิทธิพล ถือสมบัติ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง สมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอภักดีชุมพลที่ 15 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฯ ตำบลเจาทอง ลงพื้นที่ตรวจค้น พบ นายบอย (ขอสงวนชื่อสกุล) อายุ 23 ปี อยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง เดินถือมีดด้ามยาวในบ้านไม่ยอมให้เข้าใกล้ เจ้าหน้าที่ต้องปิดล้อมเกลี้ยกล่อมก่อนชาร์จเข้าจับกุมตัวไว้ได้ ตรวจค้นภายในบ้านพบของกลางยาบ้า 15 เม็ด จึงตั้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
3) จังหวัดแพร่ ภายใต้การอำนวยการโดยนายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่/ผอ.ศอ.ป.ส.จ.แพร่ นายธาตรี บุญมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายนายวาทิต ปัญญาคม ปลัดจังหวัดแพร่ สั่งการให้นายนคร สายยืด นายอำเภอสูงเม่น/ผอ.ศป.ปส.อ.สูงเม่น มอบหมายให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส.อ.สูงเม่น 4 บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สูงเม่น จนท.รพ.สผช.สาธารณสุข จนท.สสอ.สูงเม่น จนท.รพ.สต.บ้านน้ำชำ นายก อบต.น้ำชำ กำนันตำบลบ้านน้ำชำ ผู้ใหญ่บ้าน พร้อม อสม.ในพื้นที่ ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการค้นหาผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ผู้มีอาการทางจิต และผู้ป่วยทางจิตเวชฯ เพื่อนำบำบัดรักษาฯ ที่ ตำบลบ้านน้ำชำ อ.สูงเม่น จ.แพร่ จำนวน 23 ราย พบสารเสพติด 11 ราย และสมัครใจเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาตามประมวลกฎหมายยาเสพติดต่อไป
4) จังหวัดกระบี่ ภายใต้การอำนวยการของนายเศวตฉัตร สุวรรณรัตน์ นายอำเภอเหนือคลอง นำโดยนายธีรพล ทำสวน ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหนือคลอง สมาชิก อส.อ.เหนือคลองที่ 9 ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.โคกยาง และผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ นำตัวนายจรัญ อายุ 27 ปี และนายนิพนธ์ จันทร์โชติ อายุ 33 ปี ผู้มีอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติด ส่งโรงพยาบาลเหนือคลอง เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาต่อไป
5) จังหวัดเชียงใหม่ นายพีระศักดิ์ ธีรบดี นายอำเภอแม่วาง/ผอ.ศป.ปส.อ.แม่วาง มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการฯ ตำบลแม่วิน ปลัดฝ่ายความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ ตำบลแม่วิน และสมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่วางที่ 23 บูรณาการร่วม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่วาง รพ.แม่วาง สสอ.แม่วาง ออกพื้นที่ติดตาม ค้นหา และรับรายงานตัวผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Re X-ray) ในพื้นที่ตำบลแม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ จำนวน 9 หมู่บ้าน เพื่อค้นหาแล้วนำผู้ป่วยที่สมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา มีเป้าหมายมารายงานตัว 24 ราย ผลตรวจฉี่เป็นบวก 6 ราย ไม่มารายงานตัว 38 ราย ในส่วนผู้มีผลเป็นบวกทั้งหมดยินยอมเข้าสู่ระบบบำบัดรักษาฯ ส่วนผู้ที่ไม่มารายงานตัว เจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการเชิงรุกในขั้นตอนต่อไป และอำเภอสันทราย นายศิวะ ธมิกานนท์ นายอำเภอสันทราย/ ผอ.ศป.ปส.อ.สันทราย สั่งการฝ่ายความมั่นคง และร้อย อส.อ.สันทรายที่ 15 ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านบ้านเกษตรพัฒนา หมู่ที่ 15 ต.ป่าไผ่ ชุด ชรบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เเม่โจ้ เข้าตรวจสอบบ้าน ม.15 ต.ป่าไผ่ ตามที่ได้รับแจ้งเหตุจากผู้ใหญ่บ้านฯ พบ นายศุภสิทธิ์ อายุ 21 ปี ได้สอบถามแม่ของนายศุภสิทธิ์ฯ ทราบว่า มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดเป็นประจำ พูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง เสพติดจนมีอาการหลอน ทำลายข้าวของในบ้าน บางครั้งนำอาวุธมีดไปไล่ฟันผู้คนบริเวณโดยรอบบ้าน จึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ให้นำบุตรชายเข้ารับการบำบัดยาเสพติด เพราะเกรงว่าถ้าปล่อยไว้นาน จะทำร้ายตัวเอง และเป็นอันตรายต่อบุคคลภายในครอบครัวและชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันควบคุมตัวนำนายศุภสิทธิ์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เเม่โจ้ เพื่อดำเนินการต่อไป
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวเน้นย้ำว่า ยาเสพติดส่งผลกระทบโดยตรงต่อร่างกายเเละสภาพจิตใจผู้ป่วย ดังนั้นการจะบำบัดรักษาฟื้นฟูจึงต้องอาศัยกระบวนการเเละขั้นตอนระเบียบวิธีที่ถูกต้อง เพื่อปรับสภาพร่างกายเเละจิตใจของผู้ป่วย ให้ได้รับการซึมซับเเละเห็นคุณค่าของตัวเองภายหลังจากการบำบัดรักษา พร้อมทั้งสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจให้กับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดกรอบเเนวทางการฟื้นฟู เเละการฝึกอาชีพให้ผู้ผ่านการบำบัดรักษาได้มีโอกาส “พึ่งพาตนเอง” โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการวางรากฐานวิถีชีวิตภายหลังผู้ป่วย ได้กลับคืนสู่ครอบครัวและสังคม อันจะส่งผลให้เกิดการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ที่มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง และไม่หันกลับไปพึ่งพายาเสพติดในการดำรงชีวิต ทั้งนี้ แรงผลักดันของผู้นำชุมชนและสมาชิกในครอบครัวจะเป็นกำลังหลักที่สำคัญในการทำให้พวกเขาเข้มแข็ง ถือสัจจะต่อตัวเอง ครอบครัว ทั้งนี้ หากต้องการเเจ้งเบาะเเส หรือขอคำปรึกษาสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรมทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือสายด่วน 1567 โทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
#WorldSoilDay #วันดินโลก #soilswherefoodbegins #Soils4Nutrition #FAO #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 618/2565 วันที่ 11 ธ.ค. 2565