วันนี้ (4 พ.ค. 2566) นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยจังหวัดทุกจังหวัดขอรับความเมตตาจากคณะสงฆ์ในพื้นที่มุ่งขับเคลื่อนบทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน เสริมพลัง “บวร” ขยายผลให้เกิดมรรคผลเป็นรูปธรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน และดำเนินการขับเคลื่อน “โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในหมู่บ้านให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ และขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอเป็นผู้นำ ร่วมกับ 7 ภาคีเครือข่าย ได้แก่ ภาครัฐ ภาคศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคสื่อสารมวลชน และภาคประชาสังคม สอดคล้องกับการขับเคลื่อน “โครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” ที่มุ่งเน้นการสนับสนุนการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย (Partnership) ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของที่ 17 ขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) ด้วยการใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ทั้งทีมอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ในการสร้างความสามัคคีและความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในระดับพื้นที่/ชุมชน/หมู่บ้าน เพื่อเสริมความเข้มแข็งให้แก่กลไกการดำเนินงานและฟื้นฟูหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า จังหวัดราชบุรี ได้ดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน จึงได้จัดประชุมและลงนามบันทึกข้อตกลงการบูรณาการงานสำคัญ 3 โครงการ ได้แก่ 1) บทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน 2) โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา 3) โครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน เพื่อให้เกิดความเข้าใจและทำงานในทิศทาง เป้าหมายเดียวกัน เกิดผลการดำเนินงานเป็นรูปธรรม โดยได้รับเมตตาจากพระครูสุภัทรญาณวินิฐ เจ้าคณะอำเภอปากท่อ เจ้าอาวาสวัดปากท่อ เป็นภาคีเครือข่ายสำคัญตามหลัก “บวร” ในการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ ร่วมกับนายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอปากท่อ และภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย คณะสงฆ์วัดปากท่อ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำองค์กรสตรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคสื่อมวลชน และภาคประชาชน ร่วมลงนามเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2566 ณ วัดปากท่อ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี
นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวต่ออีกว่า กิจกรรมในวันนี้ นอกจากจะเป็นการทำความเข้าใจเพื่อให้เกิดการทำงานในทิศทางเดียวกันแล้ว ยังเป็นการขับเคลื่อน “โครงการวิถีปากท่อ วิถีพอเพียง สุขอย่างยั่งยืน Pak Toh Vision 2030” ในการขับเคลื่อนสู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง ให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เพื่อพัฒนาและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนจังหวัดราชบุรี ให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่กับการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีทางศาสนา ตามโครงการท่องเที่ยวข้าวเต็มบาตรสุขที่พอเพียง อีกทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รณรงค์ให้ประชาชนทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของดิน น้ำ และป่า ตามโครงการดิน น้ำ ป่า ขยะ สร้างชีวิต การคัดแยกขยะครัวเรือน การจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน การทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ รวมไปถึงการใช้พลังงานสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ การปลูกพืชผักสวนครัว สร้างความมั่นคงทางอาหาร และการน้อมนำหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ นำไปสู่การที่ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
“จังหวัดราชบุรี มีความมุ่งมั่นในการ Change for Good ทำหน้าที่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อตอบสนองคุณแผ่นดิน ในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ต้องอาศัยการร่วมมือกันของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อให้บรรลุเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดเป็นรูปธรรมในพื้นที่อย่างแท้จริง และขอให้ทุกภาคส่วนบูรณาการขยายผลการดำเนินการนี้ไปยังทุกพื้นที่ ชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงและความผาสุกให้เกิดแก่พี่น้องประชาชนชาวราชบุรีอย่างยั่งยืนต่อไป” นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าว
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 409/2566 วันที่ 4 พ.ค. 2566
