วันนี้ (6 มิ.ย. 66) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสงคราม น้อมนำพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยให้ความสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนการประกอบอาชีพกับผู้ประกอบการผ้าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย เพื่อที่จะทำให้พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ที่มั่นคง ยังผลทำให้ครอบครัวตลอดจนลูกหลานได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
“ตนพร้อมด้วยนางมณีรัตน์ พรหมเขียว ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ลงพื้นที่เยี่ยมกลุ่มผลิตภัณฑ์ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย และหัตถกรรม “กลุ่มบ้านคุณนายไหมไทย” เลขที่ 86/9 หมู่ 6 ตำบลนางตะเคียน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม โดยมีนายอริย์ธัช ภิญโญกูล หรือ “คุณอู่” ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชมการดำเนินงานของกลุ่มฯ ซึ่งกลุ่ม “บ้านคุณนายไหมไทย” เป็นผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP รายเดียวในจังหวัดสมุทรสงคราม ที่ทอผ้าไหมจากการพุ่งกระสวยด้วยมือ โดยนำเส้นไหมมาย้อมสีธรรมชาติที่ได้จาก ใบลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม เปลือกพะยอม เปลือกลูกจาก เปลือกมะพร้าวอ่อน เป็นต้น” ผวจ.สมุทรสงคราม กล่าว
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวต่ออีกว่า นับเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมุ่งมั่นในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อให้คนไทยทุกคนมีความสุข ดังพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” โดยทรงต่อยอดจากพื้นฐานที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงวางไว้ คือ ทำให้ชาวบ้านกลับมาทอผ้าก่อน ต่อยอดด้วยทรงใช้กลไกตลาด เริ่มต้นจากการพัฒนาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ เช่นการใช้สีธรรมชาติ ด้วยการนำหลักการพึ่งพาตนเอง ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ปลูกต้นไม้ให้สี มาใช้ พร้อมทั้งทรงโปรดให้คณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ลงมาให้คำแนะนำ มาอบรมโค้ชชิ่ง เพื่อให้ช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีอย่างยั่งยืน โดยจังหวัดสมุทรสงครามได้เน้นย้ำไปยังหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานดังกล่าว โดยได้นำวิธีการตามแนวทางของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในการรณรงค์ส่งเสริมให้เกิดการสร้างความนิยมชมชอบของประชาชนผ่านหลักการ “ผู้นำต้องทำก่อน” โดยเริ่มจากการลงพื้นที่เยี่ยมชมผู้ประกอบการในครั้งนี้ และยังได้กล่าวชื่นชม ให้กำลังใจกับผู้ผลิตและผู้ประกอบการ ในความพยายามและความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาต่อยอดงานจนประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสมุทรสงคราม โดยขอให้ช่วยกันขยายผลถ่ายทอดภูมิปัญญา สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนต่อไป
นายอริย์ธัช ภิญโญกูล ผู้ประกอบการบ้านคุณนายไหมไทย เปิดเผยว่า เนื่องจาก จ.สมุทรสงคราม มีพืชท้องถิ่นอยู่เป็นจำนวนมากชาวบ้านใน ต.นางตะเคียน ได้ใช้ประโยชน์จากพืชท้องถิ่นได้หลากหลายอย่าง เช่น ลูกจากนำไปทำเป็นลูกจากลอยแก้ว มะพร้าวอ่อนนำไปประกอบอาหารคาวหวาน ซึ่งเปลือกลูกจาก และเปลือกมะพร้าวอ่อนนี้เองก็สามารถนำมาสกัดเป็นสีย้อมได้ หรือเมื่อเดือนที่ผ่านมาทาง จ.สมุทรสงคราม ได้มีการจัดงาน “เทศกาลลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม และของดีเมืองแม่กลอง” ทำให้เมื่อผู้ประกอบการซึ่งขายเพียงแต่ลูกลิ้นจี่ ทำให้มีใบของลิ้นจี่เหลือเป็นจำนวนมาก ตนจึงนำมาย้อมสี แต่ที่ตนคิดว่าตนน่าจะเป็นคนแรกของประเทศไทยที่นำเปลือกจากพืชมาย้อมเส้นไหมได้คือ เปลือกจากลูกจาก โดยเหตุเกิดจากน้ำของเปลือกลูกจากกระเด็นติดเสื้อเป็นสีน้ำตาล เมื่อนำไปซักก็ซักไม่ออก จุดนี้เองตนจึงมีแนวคิดในการนำเปลือกลูกจากที่ทิ้งแล้วกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ โดยนำเปลือกลูกจากมาต้มน้ำสะอาด แล้วนำเส้นไหมมาย้อม ก่อนนำไปทอเป็นผ้าไหมพื้น จนได้ผ้าไหมย้อมเปลือกลูกจากที่สวยงาม และทำให้ได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพผ้าไหมไทยที่สถาบันหม่อนไหมแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยกลุ่ม “บ้านคุณนายไหมไทย” ได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพฯ จำนวนครบทั้ง 4 ชนิดได้แก่ นกยูงสีทอง (Royal Thai Silk) นกยูงสีเงิน (Classic Thai Silk) นกยูงสีน้ำเงิน (Thai Silk) และ นกยูงสีเขียว (Thai Silk Blend) ซึ่งทำให้สินค้าของทางกลุ่มมีมาตรฐานและเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในภาคอีสาน ซึ่งสร้างความแปลกใจเป็นอย่างมากต่อผู้ติดต่อและสอบถาม ตลอดจนถึงท่านผู้ว่าฯ ที่บอกกล่าวว่ามีแต่จังหวัดอื่น ๆ นำเข้าผ้าไหมจากภาคอีสานแต่ จ.สมุทรสงครามนี้ส่งออกผ้าไหมไปยังภาคอีสานแทนได้
“ขอน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานแนวทาง Sustainable Fashion อันเป็นการส่งเสริมหลักการพึ่งพาตนเอง อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น และได้พระราชทานแนวทางการย้อมสีผ้าจากธรรมชาติซึ่งเป็นต้นแบบให้กับกลุ่มทอผ้าของตน และกลุ่มอื่น ๆ นำไปพัฒนาต่อยอด และขอเป็นตัวแทนของกลุ่ม “บ้านคุณนายไหมไทย” ขอบคุณแทนสมาชิกในกลุ่ม และขอขอบคุณทางจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งนำโดยท่านผู้ว่าฯ และประธานแม่บ้านมหาดไทย จ.สมุทรสงคราม พร้อมคณะ ที่ลงมาเยี่ยม ให้กำลังใจ สอบถามข้อปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน ตนยืนยันว่าจะนำความคิดสร้างสรรค์ไปพัฒนาต่อยอดสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสมุทรสงคราม สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนต่อไป“ นายอริย์ธัช ฯ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 517/2566 วันที่ 6 มิ.ย. 2566
