วันนี้ (25 มิ.ย. 66) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ทางจังหวัดฯ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเด็กหญิงยอดกตัญญูในพื้นที่อำเภอบ้านนาสาร ที่ต้องเลี้ยงดูบิดาซึ่งเป็นผู้พิการทางด้านการเคลื่อนไหว มีความเป็นอยู่ยากลำบาก ซึ่งตนได้สั่งการให้ นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอบ้านนาสาร นำทีมอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน และองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งเตา ได้ร่วมกับนางสาวชลลดา ชนะศรีรัตนกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงเยี่ยมบ้านและตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงชมาพร คงคช อายุ 14 ปี ที่ดูแลนายจเร คงคช อายุ 58 ปี ผู้เป็นบิดาซึ่งพิการทางด้านการเคลื่อนไหว
ด้านนายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอบ้านนาสาร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ร่วมกับทีมอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ฯ พบว่า เด็กหญิงชมาพรฯ กำลังศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดวิเวการาม เป็นบุตรนายจเร คงคช อายุ 58 ปี และนางวรรณี มีแย้ม อายุ 54 ปี ซึ่งอยู่ด้วยกันมา 13 ปี ก่อนเลิกรากัน เมื่อปี 2564 โดยปัจจุบันเด็กหญิงชมาพรฯ พักอาศัยอยู่กับบิดา ที่หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งเตา อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะที่พักอาศัย เป็นบ้านชั้นเดียว ก่อสร้างด้วยปูน สภาพเก่า ตั้งอยู่บนที่ดินของนางน้าว รักษาราช อายุ 79 ปี ซึ่งเป็นยายของเด็กหญิงชมาพรฯ ภายในบ้านเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีการกั้นห้องเป็นสัดส่วน ใช้ตู้เพื่อกั้นเป็นห้องนอน มีห้องครัว และห้องน้ำ 1 ห้อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าที่จำเป็น ขณะที่รายได้ของครอบครัวนั้น ในอดีตนายจเรฯ และนางวรรณีฯ ซึ่งประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้ประมาณวันละ 300 บาท จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ. 2561 นายจเรฯ ประสบอุบัติเหตุไฟฟ้าดูด ต้องตัดมือซ้ายและขาซ้าย ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ รายได้หลักของครอบครัวมาจากเบี้ยผู้พิการ เดือนละ 800 บาท และมีญาติพี่น้องช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราว ครั้งละประมาณ 500 – 1,000 บาท และช่วยเหลือเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค ส่งผลให้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
“การลงพื้นที่เยี่ยมบ้านในครั้งนี้ ได้มีการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยอำเภอบ้านนาสาร ได้มอบทุนการศึกษาแก่เด็กหญิงชมาพรฯ เป็นเงิน 1,000 บาท อบต.ทุ่งเตา ให้ความช่วยเหลือด้านรถรับ-ส่ง สำหรับพานายจเรฯ เดินทางไปรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลบ้านนาสาร และโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ขณะที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ความช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง เป็นเงิน 3,000 บาท ส่วนแผนการให้ความช่วยเหลือในระยะต่อไป เพื่อให้เด็กหญิงชมาพรฯ ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยจะได้นำข้อมูลประวัติครอบครัวและการศึกษาของเด็กเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็ก เพื่อกำหนดแนวทางและวิธีการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่ยั่งยืนต่อไป” นายอำเภอบ้านนาสาร กล่าว
นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอบ้านนาสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ขอให้ทาง อบต.ทุ่งเตา ออกแบบประมาณการเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย เช่น ห้องน้ำ ประตู หน้าต่าง ให้มีความมั่นคงแข็งแรงขึ้น ภายในกรอบวงเงิน 40,000 บาท เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือผู้พิการ และหากเกินวงเงินงบประมาณ จะใช้กลไกภาคีเครือข่ายในพื้นที่ให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป นอกจากนี้ ในด้านการน้อมนำพระราชดำริเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตนจะประสานงานกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่เพื่อจัดหาไก่ไข่ พันธุ์ปลานิล พร้อมอุปกรณ์ ให้เด็กหญิงชมาพรฯ เลี้ยง เพื่อเป็นแหล่งอาหารของครอบครัว รวมถึงพืชผักสวนครัวที่จำเป็น จัดหาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์การนอน จัดหาชุดนักเรียน เครื่องแบบต่าง ๆ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเรียนแก่เด็กหญิงชมาพรฯ ตลอดจนมอบหมายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อบต.ทุ่งเตา เยี่ยมเยียนให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง และให้การช่วยเหลือตามความเหมาะสม และตนพร้อมด้วยทีมปลัดอำเภอ จะได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนน้องชมาพร ฯ อย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และท่านวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะหน้าที่ของคนมหาดไทย คือ หน้าที่ของการทำให้ความทุกข์ลดลงจนหมดไป ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 613/2566 วันที่ 25 มิ.ย. 2566
