วันนี้ (13 ส.ค. 66) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายการพัฒนาเพื่อให้ประชาชนสามารถ “อยู่รอด พอเพียง และยั่งยืน” ซึ่งมีทีมปฏิบัติการลงพื้นที่เป็นรายครัวเรือนแบบพุ่งเป้า โดยใช้ระบบ ThaiQM และ TPMAP เพื่อให้การสนับสนุนรวมถึงโอกาสที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตกับประชาชนทุกช่วงวัยในทุกมิติ นำไปสู่การพัฒนาในภาพรวมของประเทศซึ่งใน 5 มิติหลัก ประกอบด้วย ด้านสุขภาพ ความเป็นอยู่ การศึกษา รายได้ และการเข้าถึงบริการภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขภาพของประชาชน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้บูรณาการข้อมูลกับองค์กรภาคีเครือข่าย โดยมีนายอำเภอนำทีม ภายใต้กลไก ศจพ.อำเภอ ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขและพัฒนาคุณภาพชีวิต อาทิ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด สาธารณสุขอำเภอ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในพื้นที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยนายสุเชาว์ ทูโมสิก นายอำเภอพนม เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองชะอุ่น และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลคลองชะอุ่น ได้ร่วมลงพื้นที่ติดตามความเป็นอยู่ผู้สูงอายุในพื้นที่ตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมมอบถุงยังชีพและตรวจสุขภาพ โดยได้เยี่ยมเยียนบ้านคุณยายหั้ว ทัดแก้ว อายุ 102 ปี ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 6 ตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม ผู้เป็นปูชนียบุคคลที่ลูกหลานของตำบลคลองชะอุ่นเคารพรัก ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่กับบุตรสาวอายุ 60 ปี ซึ่งยังคงมีร่างกายแข็งแรง สามารถเคลื่อนไหวและพบปะทักทายพูดคุยกับผู้คนได้ตามปกติ และยังสามารถเขียนหนังสือได้ จากผลตรวจสุขภาพโดยเจ้าหน้าที่จาก รพ.สต.คลองชะอุ่น ปรากฎว่าไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางเทศบาลได้มอบเงินสนับสนุนผู้สูงอายุ งวดละ 3,000 บาท จำนวน 3 งวดต่อปี
“ตำบลคลองชะอุ่น ยังมีคุณยายอายุ 102 ปี อีกท่านหนึ่ง คือ นางคลี่ คชวิน อายุ 102 ปี อยู่ที่หมู่ที่ 4 ตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม อาศัยอยู่กับลูกชาย อายุ 68 ปี ซึ่งสุขภาพยังคงแข็งแรงเช่นเดียวกัน เนื่องจากได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และที่ผ่านมา จังหวัดสุราษฎร์ธานีโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 100 ปี เป็นปูชนียบุคคล เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลของผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาว อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่ลูกหลาน และเป็นกำลังใจให้ผู้สูงอายุได้มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงเพื่อดำรงชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข” นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าว
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจาก คุณยายทั้ง 2 ท่านนี้แล้ว จังหวัดสุราษฎร์ธานียังมีผู้สูงอายุที่อายุเกิน 100 ปี อีกจำนวน 12 ท่าน ได้แก่
1) นายว่อง อินทรมณี อายุ 101ปี อำเภอท่าชนะ
2) นายทอง ทิตระกูล อายุ 101 ปี อำเภอท่าชนะ
3) นางเล็ก คุ้มรักษ์ อายุ 101 ปี อำเภอท่าชนะ
4) นายยะโก๊ป พรชัย อายุ 101 ปี อำเภอไชยา
5) นางบุญ หนูเพ็ง อายุ 101 ปี 10 เดือน อำเภอท่าฉาง
6) นางบุญ พรหมกาญจน์ อายุ 101 ปี อำเภอพุนพิน
7) นางรุ่ม รัตนูปกรณ์ อายุ 102 ปี 8 เดือน อำเภอพุนพิน
8) นางฟุ้ง ชาตรีทัพ อายุ 101 ปี อำเภอพุนพิน
9) นายข้อง ศิลปะพรหมณ์มาศ อายุ 101 ปี 10 เดือน อำเภอพนม
10) นางเฟื้อง หนูศรีแก้ว อายุ 102 ปี อำเภอบ้านนาสาร
11) นางสนิท ทองศรีทอง อายุ 100 ปี อำเภอบ้านนาสาร
12) นางป้วน แก้งคง อายุ 100 ปี อำเภอดอนสัก
ซึ่งนายอำเภอ ผู้เป็นแม่ทัพในแต่ละพื้นที่ ก็จะได้มีโอกาสเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพ และตรวจสุขภาพ แก่ผู้สูงอายุเหล่านี้อย่างต่อเนื่องต่อไป จึงนับเป็นที่น่ายินดีและน่าภูมิใจที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะ “ผู้สูงอายุ” ที่ถือเป็นปูชนียบุคคลที่ทุกหน่วยงานต้องช่วยกันเตรียมพร้อมในการที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมของผู้สูงอายุ
“ผู้สูงอายุทุกท่านเป็นปูชนียบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นที่น่ายกย่องเชิดชู และเป็นตัวอย่างของลูกหลานเยาวชนคนรุ่นใหม่ในการดำรงชีวิต ตลอดถึงการสืบสานวัฒนธรรมประเพณี แสดงความกตัญญูกตเวที ซึ่งเป็นคุณธรรมพื้นฐานของการเป็นคนดีสมดั่งความหมายของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่หมายถึง “เมืองคนดี” นำไปสู่การเป็นสังคมไทยที่มีความสุขอย่างยั่งยืน ตรงตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) รวมถึงแนวทางการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ที่สอดคล้องกับสิ่งที่กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน” เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน” นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวทิ้งท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 781/2566 วันที่ 13 ส.ค. 2566
