วันนี้ (4 ต.ค. 66) เวลา 10.30 น. ณ ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชั้น 2 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวาเลนตีโน วาเลนตีนี (H.E. Mr. Valentino Valentini) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิสาหกิจและการผลิตในอิตาลี สาธารณรัฐอิตาลี เข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย นายอัตตีลีโอ ฟอนตานา (Mr. Attilio Fontana) ผู้ว่าการแคว้นลอมบาร์เดีย และคณะฯ เข้าร่วมคารวะ พร้อมหารือถึงแนวทางการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ โอกาสนี้ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือในการนี้ด้วย
นายวาเลนตีโน วาเลนตีนี (H.E. Mr. Valentino Valentini) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิสาหกิจและการผลิตในอิตาลี สาธารณรัฐอิตาลี กล่าวว่า ตนและคณะรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าพบและหารือข้อราชการกับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งต้องขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทยที่ได้ให้การสนับสนุนและความร่วมมือด้านต่าง ๆ กับสาธารณรัฐอิตาลีในฐานะเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมาเป็นระยะเวลายาวนานกับประเทศไทย ตั้งแต่ได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2411 (ค.ศ. 1868) ซึ่งปีนี้ครบรอบ 155 ปี พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า สาธารณรัฐอิตาลี พร้อมยินดีที่จะเป็นกำลังสำคัญในการเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกัน รวมถึงพร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญ เพื่อส่งเสริมให้ทั้งสองประเทศได้เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิสาหกิจและการผลิตในอิตาลี และคณะฯ ที่ได้ให้เกียรติกับกระทรวงมหาดไทย พร้อมกล่าวว่า ในห้วงระยะเวลา 155 ปีที่ผ่านมา ไทยและสาธารณรัฐอิตาลีได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม และในด้านอื่น ๆ เป็นอย่างดีเสมอมา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สาธารณรัฐอิตาลีมีความร่วมมือกับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และพร้อมให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ตามอำนาจหน้าที่และที่รัฐบาลมอบหมาย อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ และในอนาคตหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยและสาธารณรัฐอิตาลีจะได้ร่วมกันส่งเสริมและผลักดันการพัฒนาด้านนวัตกรรม รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์เพื่อให้เกิดความร่วมมือและการสนับสนุนที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศต่อไป
ด้าน นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยและสาธารณรัฐอิตาลีต่างก็เป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมาเป็นห้วงระยะเวลายาวนาน ซึ่งอิตาลีได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคและมีความน่าสนใจในด้านการลงทุนเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ ยังได้แนะนำถึงแคว้นลอมบาร์เดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในยี่สิบแคว้นของประเทศอิตาลีที่มีเมืองหลักคือ มิลาน (Milano) ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรม การเงิน การค้าและการลงทุนของสาธารณรัฐอิตาลี โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มากกว่า 400 พันล้านยูโร จึงกล่าวได้ว่า เป็นแคว้นที่เป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจสำคัญของอิตาลี และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับประเทศไทยในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรม และเรื่องอื่น ๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 932/2566 วันที่ 4 ต.ค. 2566