วันนี้ (21 ต.ค. 66) ที่สนามจักรยานขาไถ ภายในสวนกีฬากมล เอฟบีที ถนนสุวินทวงศ์ กรุงเทพฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2566 สนามที่ 3 (Thailand Balance Bike Championships 2023) โดยมี พลเอก เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา นายกมล โชคไพบูลย์กิจ ประธานกรรมการ บริษัท โรงงานฟุตบอลล์ไทยสปอร์ตติ้งกู๊ดส์ จำกัด คณะบริหารสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ปกครองนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันฯ และหนูน้อยนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวนกว่า 500 คน เข้าร่วมในพิธี
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำผู้เข้าร่วมพิธีถวายธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมนำผู้ร่วมพิธีร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และลงนามถวายพระพรชัยมงคล แล้วเป็นประธานเปิดการแข่งขัน พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมให้กำลังใจนักกีฬาและครอบครัว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กีฬาจักรยานเป็นกีฬาที่ได้รับความสนใจจากทุกเพศทุกวัย และเป็นกีฬาสากลที่มีในมหกรรมกีฬาสำคัญ ๆ อาทิเช่น กีฬาโอลิมปิคเกมส์ กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และกีฬาซีเกมส์ การจัดแข่งขันครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างพื้นฐานของกีฬาจักรยาน ย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะต่อยอดไปสู่ความเป็นเลิศและในระดับกีฬาอาชีพต่อไป การที่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดการแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 3 ในวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนากีฬาจักรยานตั้งแต่เยาว์วัย โดยเริ่มตั้งแต่เด็กอายุ 1 ขวบ 8 เดือน ไปจนถึง 10 ขวบ เพื่อเป็นการพัฒนาในระดับขั้นพื้นฐานของกีฬาจักรยาน
.
นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กีฬาชนิดนี้เป็นกีฬาชนิดเดียวที่อนุญาตให้เด็กเล็ก ตั้งแต่อายุ 1 – 2 ขวบ ได้มีเเข่งขันในระดับเยาวชน ไปจนถึงระดับประเทศ และในระดับโลก ซึ่งเกิดผลดีทั้งในแง่ของการที่จะมีนักกีฬาจักรยานที่ต่อเนื่อง ได้มีโอกาสฝึกฝนทักษะการเล่นกีฬา จนกระทั่งถึงการเป็นตัวแทนที่จะเข้าร่วมแข่งขัน และสร้างชื่อเสียงให้แก่ครอบครัว โรงเรียน สังคม และประเทศชาติ โดยรวมของพวกเรา ที่ผ่านมาสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้พิสูจน์ผลงานในการที่มีกิจกรรมในหลาย ๆ เวทีที่ต่อเนื่อง สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติของเรามาโดยตลอด
.
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้กล่าวต่อว่า และในส่วนของการแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถ ยิ่งมีประโยชน์มากกว่าความเป็นเลิศทางด้านกีฬา อีกส่วนหนึ่ง คือ ด้านการพัฒนาร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ที่จะเป็นส่วนเสริมจากการได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน สิ่งที่จะช่วยพัฒนาส่งเสริมการสร้างเยาวชนของชาติที่ดีที่สุด คือ กีฬา สิ่งที่ทางสมาคมฯ ได้ดำเนินการอยู่ในวันนี้ เป็นการส่งเสริมให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกหลานมาออกกำลังกาย โดยใช้จักรยานขาไถ หรือมีทั้งล้อ มีทั้งขา และเด็กมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน ให้เด็กสามารถบังคับใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญจะได้มีลูกหลานที่เติบใหญ่เป็นผู้ใหญ่ที่มีความกล้าหาญ มีการตัดสินใจที่ดี เป็นพื้นฐานสู่การต่อยอดด้านอื่น ๆ ต่อไป
“ในวันนี้ท่านอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มาร่วมพิธีเปิดกิจกรรมด้วย เพื่อนำตัวอย่างกิจกรรมไปขยายผลร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ส่งเสริมให้เด็ก ๆ ที่อยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเด็กที่อยู่ในศูนย์พัฒนาชุมชน ได้จักรยานขาไถเป็นเครื่องมือในการพัฒนาร่างกาย พัฒนาจิตใจ อารมณ์ การอยู่ร่วมกันในสังคม และทำให้เด็กมีวินัย เพราะว่าการเล่นกับคนอื่น ถ้าไม่มีระเบียบวินัย กฎกติกา ไม่มีการเคารพซึ่งกันและกัน อาจจะเกิดอุบัติเหตุ หรืออาจมีการทะเลาะกัน ได้ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น เพราะเด็ก ๆ เยาวชนไทยของเรา ล้วนมีสภาพจิตใจพื้นฐานดี ยิ่งรู้จักใช้กีฬา ควบคู่กับการดำรงชีวิต จะทำให้เยาวชนของเราเป็นเด็กที่มีระเบียบวินัยเป็นคนดียิ่ง ๆ ขึ้น“
“นอกจากนี้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้แจ้งว่า ขณะนี้มี 11 จังหวัด มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มี Balance Bike หรือจักรยานขาไถ เด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ออกกำลังกาย โดยในปีนี้มีเป้าหมายขยายผลให้มีการจัดตั้งศูนย์กีฬา อย่างน้อย 100 ศูนย์ เพื่อให้ลูกหลานของเราได้มีโอกาสคุ้นชินการออกกำลังกายในกีฬาประเภทอื่น ๆ รวมถึงการออกแบบพื้นที่สาธารณะให้เป็นพื้นที่ที่สามารถใช้ศึกษาเรียนรู้ตามหลักอารยเกษตร ที่นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ การสร้างความมั่นคงทางอาหารตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” เเละโครงการ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ทุกพื้นที่สาธารณะมีทั้งสนามกีฬา สำหรับคนทุกเพศทุกวัยได้ชื่นชมธรรมชาติ ซึ่งในขณะนี้ได้รับความอนุเคราะห์พื้นที่สาธารณะจากวัดระฆังโฆสิตาราม ที่จังหวัดปทุมธานี จำนวน 150 ไร่ และได้รับการสนับสนุนด้านการออกแบบจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับทุกเพศทุกวัย นำความสุขมาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง สมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระราโชบายในการทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานพระราชปณิธาน ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเน้นย้ำ
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอขอบคุณท่านนายกสมาคมอีกครั้งหนึ่งในการจัดกิจกรรมในวันนี้ โดยจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ หรือการ Change for Good เพื่อสังคมโดยรวม ทำให้เด็กได้มีพัฒนาการที่ดี ส่งเสริมความเข้มเเข็งของสถาบันครอบครัว ทำให้มีความรัก ความอบอุ่น และมีกิจกรรมด้วยกันทำให้มีความเเน่นเเฟ้นกันยิ่งขึ้น ซึ่งในวันนี้มีเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ จำนวน 12 คน มาเข้าร่วมแข่งขัน และเด็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 10 ขวบ เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมกิจกรรมกีฬาให้เป็นที่สนใจแก่คนทุกเพศทุกวัย นำไปสู่ความเป็นเลิศหรือการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ทั้งในกีฬาแห่งชาติหรือกีฬาชิงแชมป์แห่งประเทศไทย ทั้งกีฬาชิงแชมป์แห่งอาเซียน เอเชีย และท้ายที่สุดคือกีฬาในระดับโลกหรือโอลิมปิกต่อไปในอนาคต ขอขอบคุณท่านผู้ปกครองของลูกหลานทุกคนที่ท่านมีส่วนร่วมกับ หลานของท่านในการสร้างความรักความอบอุ่น และก็ส่งเสริมให้ลูกหลานของท่านมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง ดีงาม และเติบใหญ่เป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 991/2566 วันที่ 21 ต.ค. 2566