วันนี้ (20 ต.ค. 66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เกี่ยวกับการดำเนินงานด้านทะเบียนและบัตรของที่ทำการปกครองอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ได้พบพฤติกรรมของบุคคลแอบอ้างว่าเป็นคนในพื้นที่อำเภออมก๋อย พาบุตรชายมาทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกที่สำนักทะเบียนอำเภออมก๋อย โดยมีเอกสารหลักฐานที่นำมาแสดง ได้แก่ สูติบัตรของบุตร และสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สังเกตพฤติการณ์ รูปพรรณสัณฐานของบิดา มารดา และตัวบุตรชาย ที่มีลักษณะไม่คล้ายคลึงกัน จึงไม่น่าเชื่อว่า คนที่มาขอทำบัตรฯ เป็นบิดา มารดา และบุตร จริง ตามที่ได้กล่าวอ้าง
“เพื่อความมั่นใจ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ติดต่อผู้ใหญ่บ้านเพื่อมายืนยันข้อมูล แต่ระหว่างนั้นติดต่อผู้ใหญ่บ้านไม่ได้ บุคคลทั้ง 3 รายจึงขอกลับก่อน และแจ้งว่าจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง เจ้าหน้าที่เกิดความสงสัย จึงได้ติดตามบุคคลทั้งสามกลับมา เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และขอตรวจเอกสารที่เกี่ยวข้อง จนทำให้ได้พบกับข้อเท็จจริงว่า เด็กชายรายดังกล่าวที่มาขอทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกนั้น ไม่ใช่เจ้าของรายการที่แท้จริงแต่อย่างใด เป็นการแอบอ้างสวมตัวใช้รายการบุคคลอื่นที่ตายไปแล้ว แต่ยังไม่ได้จำหน่ายรายการออกจากทะเบียนบ้าน โดยกระทำเป็นขบวนการทุจริต มีนายหน้าเป็นผู้ดำเนินการให้ ซึ่งในขณะนี้ที่ทำการปกครองอำเภออมก๋อย โดยว่าที่ร้อยตรี อดิศักดิ์ ดวงจินดา นายอำเภออมก๋อย พร้อมด้วย นายปรีชาพล พูลทวี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายอภิชาต สินณรงค์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานทะเบียนและบัตร นายนพนิวัฒน์ อัคจร เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดง ได้จัดทำบันทึกการจับกุมเพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดดังกล่าวแล้ว” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีดังกล่าว ทำให้เห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานสำนักทะเบียนอำเภออมก๋อยเป็นผู้ช่างสังเกต และปฏิบัติงานด้วยความละเอียดรอบคอบในการพิจารณา ทำให้เห็นพฤติการณ์การกระทำความผิด ตนจึงขอชมเชยการปฏิบัติงานของสำนักทะเบียนอำเภออมก๋อย ที่ได้ปฏิบัติงานด้วยความเอาใจใส่ มีความละเอียดรอบคอบ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ขั้นตอนของหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย ทำให้การทุจริตทางทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนไม่เกิดขึ้น ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานของรัฐมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
“กระทรวงมหาดไทยมีแนวนโยบายที่ชัดเจนในการปราบปรามการการทุจริตทางทะเบียนและบัตรประชาชน รวมถึงการทุจริตทุกรูปแบบให้หมดสิ้นไปในที่สุด และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน เพราะถือเป็นคดีอาญา โดยหากเป็นเจ้าหน้าที่ต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาตามกฎหมายโดยไม่มีละเว้น และเพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการทุจริตทางทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ติดตามและกำชับนายอำเภอในการควบคุมการปฏิบัติงานของสำนักทะเบียนอำเภอและสำนักทะเบียนท้องถิ่นทุกแห่ง โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหมั่นสังเกตพฤติการณ์ของบุคคลที่มาติดต่องานทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตทางทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงตระหนักถึงความสำคัญของงานทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมทั้งหมั่นตรวจสอบ ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด โดยกรณีพบเหตุอันควรสงสัยหรือเชื่อว่าอาจมีการทุจริตเกิดขึ้น ให้รีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ที่มีแนวทางกำหนดไว้ เพื่อให้ทราบผลโดยเร็ว ซึ่งหากพบว่ามีการทุจริต ให้เร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องทุกคนรวมทั้งเจ้าหน้าที่โดยไม่ละเว้น” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 990/2566 วันที่ 20 ต.ค. 2566