วันนี้ (20 ต.ค. 66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังจากเป็นประธานพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ที่ว่าการอำเภอจัตุรัส อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เกี่ยวกับความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับมาจากประเทศอิสราเอล รวมถึงครอบครัวของแรงงานไทยในอิสราเอล
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายและข้อสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ได้ลงพื้นที่ไปดูแลพี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงานไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับมาถึงยังจังหวัดบ้านเกิดในประเทศไทย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนถึงให้การดูแลและให้กำลังใจครอบครัวตามความเหมาะสมร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัด ส่วนราชการ และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน
“ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ขณะนี้ประเทศไทยได้บริหารจัดการเที่ยวบินอพยพขนส่งคนไทยกลับประเทศ โดยได้รับแรงงานกลับมาสู่ประเทศไทยแล้ว รวม 1,560 คน (ข้อมูลจากกระทรวงแรงงาน ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2566) โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มีการจัดรถไปรับถึงสนามบิน พร้อมทั้งจัดพิธีรับขวัญ พิธีไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิธีไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อีกทั้งได้มีการมอบถุงยังชีพให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของกรณีผู้เสียชีวิต ขณะนี้ได้รับศพแรงงานไทยในอิสราเอลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว รวม 8 ราย โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดรถรับศพจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิไปยังจังหวัดภูมิลำเนา อาทิ จังหวัดสุโขทัย อุดรธานี หนองบัวลำภู นครราชสีมา และศรีสะเกษ ซึ่งจะได้เชิญไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนา และพิจารณาให้การช่วยเหลือกับครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป ทั้งนี้ ในแต่ละอำเภอ ท่านนายอำเภอได้มีการบูรณาการภาคีเครือข่ายในรูปแบบ “ทีมอำเภอ” ตั้งแต่นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ลงไปให้กำลังใจกับครอบครัวผู้ได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือ โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิประโยชน์สวัสดิการของครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งทางจังหวัดก็จะช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลให้ความช่วยเหลือให้ได้รับประโยชน์อย่างเหมาะสม
“ขอประชาสัมพันธ์แจ้งไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยที่ต้องประสบเคราะห์ร้ายหรือได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะแรงงานที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอล ตลอดจนถึงครอบครัวของแรงงาน ได้แจ้งไปยังผู้นำท้องที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัดอำเภอ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ โดยทางราชการจะได้เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การสนับสนุนได้ตรงจุดทันที ทั้งการดูแลครอบครัว ดูแลชีวิตความเป็นอยู่เฉพาะหน้า และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และสามารถติดต่อทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 เพื่อขอรับการสนับสนุนหรือความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 989/2566 วันที่ 20 ต.ค. 2566