เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 66 นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดลพบุรีได้รับแจ้งจากที่ทำการปกครองอำเภอชัยบาดาลเกี่ยวกับเหตุสลดในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านใหม่สามัคคี อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี โดยจากการตรวจสอบพบว่า บิดาซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลบ้านใหม่สามัคคี ยืนรอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเหตุยิงลูกชายซึ่งมีอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติดและจะเข้าทำร้ายร่างกายผู้เป็นมารดา
นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรชัยบาดาลร่วมกับนายทองอยู่ กิตติพัฒน์มนตรี ส.ต.อ.อรรถพล ลั่นนาวา ปลัดอำเภอชัยบาดาล พร้อมด้วยนายประเสริฐ ภู่ระยับ กำนันตำบลบ้านใหม่สามัคคี และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอชัยบาดาลที่ 4 โดยบิดาของผู้เสียชีวิตยืนรอมอบตัว และมีมารดาของผู้เสียชีวิตยืนคอยอยู่ในบริเวณเดียวกัน และพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 66 เวลา 18.00 น. ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงผู้เสียชีวิตภายในบริเวณบ้านพัก ซึ่งตัวผู้เสียชีวิตเป็นผู้ติดยาเสพติด ทั้งยาบ้า กัญชา และใบกระท่อม จนมีอาการหลอนและคลุ้มคลั่งอยู่เป็นประจำ ซึ่งก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้า เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นบิดาได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นำตัวผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นลูกชายไปเข้ารับการบำบัดที่โรงพยาบาลชัยบาดาลเนื่องจากเป็นผู้ติดยาเสพติด
“แต่แล้วในช่วงบ่าย ผู้เสียชีวิตได้หลบหนีออกมาจากโรงพยาบาลโดยกลับมาที่บ้าน และในช่วงเย็น เวลาประมาณ 17:30 น. ผู้เสียชีวิตเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ถือจอบขุดดินปรี่เข้ามาจะทำร้ายร่างกายมารดา ผู้ก่อเหตุเห็นจึงเข้ามาช่วยเหลือห้ามปราม แต่ผู้เสียชีวิตไม่ฟัง จึงได้ใช้อาวุธปืนขู่ไม่ให้เข้ามาทำร้าย แต่เหตุการณ์ก็ไม่ดีขึ้น ผู้เสียชีวิตได้พยายามเข้ามาจะแย่งปืน ผู้ก่อเหตุจึงใช้อาวุธปืนยิงไปที่บริเวณขาของผู้เสียชีวิต จำนวน 1 นัด แต่ผู้เสียชีวิตก็ยังคงพยายามเข้ามายื้อแย่งอาวุธปืนอีก ทำให้ผู้ก่อเหตุได้ยิงป้องกันไปอีกนัด เป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยหลังจากเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นบิดาได้โทรศัพท์แจ้งกำนันตำบลบ้านใหม่สามัคคี และอยู่รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยพบว่าทั้งผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นบิดาผู้เสียชีวิต รวมถึงมารดาผู้เสียชีวิตต่างมีอาการเศร้าโศกเสียใจ ก่อนที่พนักงานสอบสวนนำตัวไปสถานีตำรวจภูธรชัยบาดาลเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป” นายอำพลฯ กล่าว
นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวเน้นย้ำ เหตุการณ์สลดในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยได้พูดถึงและเน้นย้ำมาโดยตลอดว่า ปัญหายาเสพติดถ้าเกิดในบ้านหรือในครอบครัวไหน ครอบครัวนั้นจะไม่พบเจอความสุขอีกเลย มันคือความทุกข์แสนสาหัสของผู้เป็นพ่อ ผู้เป็นแม่ ที่มีลูกติดยาเสพติด ทำร้ายร่างกายเมื่อมีอาการประสาทหลอน เมื่อมีความอยากเสพยาเสพติด ก็จะก่อเหตุเอาอาวุธหรือของมีคมที่มีอยู่ในบ้าน มาขู่ทำร้ายผู้เป็นบิดา มารดา ญาติผู้ใหญ่ และหากเลวร้ายไปกว่านั้น ก็จะเอาไปทำร้ายคนที่อยู่ในชุมชน คนที่สัญจรผ่านไปมา จึงถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ไม่ใช่เพียงแต่เจ้าหน้าที่ภาครัฐ แต่ต้องรวมถึงภาคีเครือข่ายในชุมชน ในหมู่บ้าน ในตำบล ต้องช่วยกันจัดการกับปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เราจะสงสารคนที่เป็นผู้ติดยาเสพติดไม่ได้ หากเขาติดยา เราต้องพาไปบำบัดรักษา และที่สำคัญ ต้องอย่าซ้ำเติมครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้านติดยาเสพติด โดยต้องเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวนั้น ช่วยเหลือในแบบที่เราสามารถช่วยเหลือได้ เช่น ทำหน้าที่พลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปนำตัวผู้ติดยาเสพติดไปบำบัดรักษา หรือเข้าไปให้กำลังใจครอบครัว และเมื่อผู้ติดยาเสพติดได้รับการบำบัดแล้ว และกลับมาอยู่ในครอบครัว ในชุมชน ก็ต้องเข้าไปให้กำลังใจ เข้าไปชวนเขาทำสิ่งที่ดี ทำประโยชน์ให้กับชุมชน
“การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนที่เป็นปัญหาวาระสำคัญของชาติ ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และได้มีนโยบายสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้เข้มงวดกวดขันการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล ผู้มีอาวุธปืน ผู้ประกอบการสถานบริการผิดกฎหมาย รวมไปถึงการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด เพื่อให้สังคมไทยปราศจากยาเสพติด อันจะนำไปสู่การที่บ้านเมืองมีความสงบสุข โดยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา นับตั้งแต่การขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า ปัญหาความยากจน คือ ทุกปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประชาชนไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง และท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำว่า ปัญหายาเสพติด คือ ความเดือดร้อนเร่งด่วนของพี่น้องประชาชนทุกคน ที่ฝ่ายปกครองต้องบูรณาการร่วมกับทุกภาคีเครือข่าย แก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ ทั้งการนำตัวผู้ติดยาเสพติดไปเข้ารับการบำบัดรักษา การปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งผู้ค้า และผู้เกี่ยวข้องทั้งวงจร ตลอดจนดำเนินมาตรการป้องกันในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเด็กเยาวชนตลอดจนประชาชนให้มีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตนเองจากยาเสพติด และการเป็นพลเมืองที่ดีร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดกับภาครัฐ” นายอำพลฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปัจจุบันจังหวัดลพบุรีมีสถานบำบัดรักษายาเสพติด ณ โรงพยาบาลในพื้นที่ รวม 12 แห่ง และสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด จำนวน 2 แห่ง โดยพี่น้องประชาชนสามารถแจ้งขอเข้ารับการบำบัดรักษา รวมทั้งขอความช่วยเหลือได้ที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือแจ้งนายอำเภอ ปลัดอำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 11 แห่ง และที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 126 แห่ง หรือแจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือและพาผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพ ทั้งนี้ จังหวัดลพบุรีมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภทให้หมดไป โดยดำเนินการในระดับพื้นที่อย่างจริงจัง พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งสิ่งสำคัญอยู่ที่ครอบครัวและชุมชนที่เข้มแข็ง ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ สามารถแจ้งกับผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ หรือแจ้งกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงโดยทันที รวมถึงการนำผู้เสพเข้าสู่การบำบัดรักษา และนำไปสู่การฟื้นฟูสภาพทางสังคม ตามนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของกระทรวงมหาดไทย เพื่อทำให้ยาเสพติดหมดไปจากชุมชน ทำให้สังคมไทยเกิดความผาสุกอย่างยั่งยืน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1053/2566 วันที่ 5 พ.ย 2566
