เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 66 นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมขับเคลื่อนโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน และโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความมั่นคงทางอาหาร ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goal: SDGs) โดยการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ สร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนในทุกมิติ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของคนไทย
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายอำเภอในพื้นที่จังหวัดนครพนมทั้ง 12 อำเภอ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง โดยบูรณาการร่วมกันกับส่วนราชการระดับอำเภอ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และกลุ่มภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ดำเนินกิจกรรม “ลงแขกเกี่ยวข้าว” เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง ซึ่งมีคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นกลไกหลักขับเคลื่อนงานร่วมกับภาคีเครือข่าย เสริมสร้างพลังคนในชุมชน นำการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น Change for good และขยายผลไปสู่การดำเนินการช่วยเหลือดูแลซึ่งและกันของคนในชุมชน ส่งเสริมความรักความสามัคคี อันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินโครงการหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)
“ความร่วมมือของกลุ่มภาคีเครือข่าย และประชาชนจิตอาสา ร่วมกัน “ลงแขกเกี่ยวข้าว” ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายภาคเกษตรกรรม โดยการลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานเพาะปลูกให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง และส่งเสริมความรู้ให้เกษตรกรกลุ่มเปราะบางสามารถผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ จำหน่ายได้ราคาสูงขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน อันจะส่งผลให้เกษตรกรกลุ่มเปราะบางมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งมีแผนงานดำเนินการลงแขกเกี่ยวข้าวช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางทุกอำเภอ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 6 พื้นที่ ดังนี้ 1. อำเภอศรีสงคราม แปลงนาของครัวเรือนกลุ่มเปราะบางที่ทำกินในพื้นที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภอศรีสงคราม 2. อำเภอปลาปาก แปลงนาของ นางขันติ สิงห์ประเสริฐ เป็นผู้สูงอายุและมีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง 3. อำเภอเมืองนครพนม แปลงนาของราษฎรกลุ่มเปราะบางชาวตำบลวังตามัว 4. อำเภอเรณูนคร แปลงนาของ นายหนูเวียง ราชฐาน เป็นกลุ่มเปราะบางและขาดแคลนแรงงาน 5. อำเภอโพนสวรรค์ แปลงนาของ นายวันนา ตะวะนะ มีอาการป่วยและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล 6. อำเภอวังยาง แปลงนาของ นางกิณตนา พ่อชมพู มีฐานะค่อนข้างยากจน ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานทำให้เก็บเกี่ยวข้าวไม่ทันตามระยะเวลา” นายวันชัยฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวตอนท้ายว่า กิจกรรม “ลงแขกเกี่ยวข้าว” เป็นประเพณีแห่งความเอื้อเฟื้อและเกื้อกูลกันของสังคมมาตั้งแต่อดีต แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังช่วยสร้างความสมัครสมานสามัคคีกันในหมู่บ้าน การสืบสานประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว ช่วยสร้างสังคมแห่งความเอื้ออาทร สังคมแห่งการช่วยเหลือแบ่งปัน ลดต้นทุนการผลิต สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง หนุนนำให้ชาวนครพนมมีความสุขอย่างยั่งยืน
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1104/2566 วันที่ 16 พ.ย. 2566
