วันนี้ (12 ม.ค. 67) เวลา 10.30 น. ที่หอประชุมพระยาสัจจา ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานมอบวุฒิบัตรและกล่าวโอวาทให้กับผู้ผ่านการฝึกอบรมโครงการศึกษาอบรมวิทยากรเพื่อทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น ปี 2567 รุ่นที่ 1 โดยได้รับเกียรติจากนายกองเอก ธารณา คชเสนี นายหมวดตรี น้ำเพ็ชร คชเสนี สัตยารักษ์ ดร.ลักษิกา เจริญศรี ร่วมเป็นวิทยากร โอกาสนี้ นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร้อยตรี สรมงคล มงคละสิริ ผู้อำนวยการสถาบันดำรงราชานุภาพ นายสมาน พั่วโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันการพัฒนาชุมชน นายคนอง ส่งช่วย ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมด้วยข้าราชการ ครู ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน และผู้เข้าร่วมการศึกษาอบรม จำนวนรวม 200 คน ร่วมรับฟัง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่ ๆ น้อง ๆ ผู้ผ่านการฝึกอบรมวิทยากรเพื่อทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยรุ่นแรกทุกท่าน รวมถึงคณาจารย์ผู้เติมแสงสว่างให้กับผู้ที่เป็นความหวังของประเทศชาติที่จะไปช่วยให้พี่น้องประชาชนคนในชาติของเราได้มีโอกาสรับรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของแต่ละแห่ง ที่เราเรียกได้ว่าทุกท่านได้มาเป็น “ศิษย์ที่ดีของครู” และจะกลับไปทำสิ่งที่ดีให้กับประเทศชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ ทุกคนคือคนสำคัญ เพราะท่านเป็นคนที่มีจิตใจรักชาติ สนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการลุกขึ้นมาเป็น “จิตอาสา” ไม่ใช่เพียงเพราะตำแหน่งหน้าที่การงาน แต่ได้ลุกขึ้นมาเพื่อทำประโยชน์ให้กับแผ่นดินโดยที่ไม่ต้องมีคนสั่งหรือบอก และ “เรื่องที่ยากยิ่งไปกว่านั้น” คือ การลุกขึ้นมาบอกเล่าเรื่องราวของประเทศชาติ ซึ่งเป็นเรื่องราวของบรรพบุรุษของพวกเรา
“แม้ว่าการมาเป็นครูจิตอาสาผู้ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยจะเป็นเรื่องยาก เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไกลตัวในวิถีชีวิตประจำวัน ไกลจากหน้าที่การงานของผู้คน แต่เราต้องอาศัยความอดทน เพราะกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว และเราจะเข็นครกขึ้นภูเขาคนเดียวไม่ได้ แต่ตนมั่นใจว่าการศึกษาอบรมตลอดหลายวันนี้จะทำให้ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมทุกท่านลุกขึ้นมาเป็น “ขุนศึกแนวหน้า” ในการที่จะรื้อฟื้นบอกเล่าเรื่องราวของบรรพบุรุษไทยผ่านประวัติศาสตร์ชาติไทยให้กับเด็กและเยาวชนไทยในทุกพื้นที่ที่เรามีโอกาส โดยมีภาคีเครือข่ายทั้งในห้องและนอกห้องที่ต้องไปช่วยกันทำให้เกิดการโคลนนิ่ง “ครู ข” ผู้ที่มีจิตอาสา มีใจเปิดกว้างเพื่อที่จะเรียนรู้สิ่งที่พวกเราได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณครูวิทยากรมากยิ่งขึ้น เพราะวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยจะทำให้เกิดการหลอมรวมความรู้สึกรู้รักสามัคคี มีความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษผู้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อรักษาเอกราชของชาติไทย พร้อมทำนุบำรุงประเทศชาติให้มั่นคง และเป็นบ้านที่อยู่อาศัยของพวกเรารุ่นแล้วรุ่นเล่าต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณท่านคณาจารย์วิทยากรทุกท่าน เพราะทุกคนที่เป็นวิทยากร คือ คุณครูผู้ที่ให้ความรู้อย่างใกล้ชิดกับพวกเรา จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเราจะได้เป็นครูจิตอาสาในการที่จะไปช่วยกันทำให้เกิดการรับรู้เรื่องของประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่เคยได้สัมผัส ดังนั้น ครู ก ทุกท่านจึงเป็นความหวังของกระทรวงมหาดไทยและประเทศชาติในการช่วยกัน “แก้ไขในสิ่งผิด” ทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ที่รู้เห็นแนะนำสิ่งที่ดีถ่ายทอดไปสู่ลูกหลาน คนในท้องถิ่น ท้องที่ รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ และตนมั่นใจว่าพวกเราทุกคนจะสามารถทำได้ด้วยการสื่อสารสังคมที่ดี นำเอาความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันไปประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่เพิ่มพูนขึ้น
“กระทรวงมหาดไทยเรามีความตั้งใจว่าหลังจากที่ทุกท่านผ่านการอบรมนี้ไปแล้ว ทุกท่านจะได้ไป “ทำทันที (Action Now)” ด้วยการช่วยกันเผยแพร่สิ่งที่พวกเราตั้งใจไปบอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทย ผลักดันกระตุ้นทำสิ่งดีให้เกิดขึ้น สนองพระมหากรุณาธิคุณโดยน้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้บรรลุผลสำเร็จได้ คือทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาใช้ในการดำรงชีวิตและการทำงาน ช่วยกันทำให้สิ่งที่เปรียบเสมือน “การเข็นครกขึ้นภูเขา” ในครั้งนี้ พลันสำเร็จให้จงได้ด้วย Passion ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมกันสร้างความดี ความมีจิตอาสา เป็นผู้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย “มีใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” เอาหัวใจผลักดันทำให้ร่างกายของเราที่มีขีดจำกัดได้ฝ่าฟันขีดจำกัด ได้ทำความดีอย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้มี “ครู ข” “ครู ค” “ครู ง” เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเมื่อคนในชาติมีความรักและความสามัคคี ประเทศชาติก็จะมั่นคง ประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
ร้อยตรี สรมงคล มงคละสิริ ผู้อำนวยการสถาบันดำรงราชานุภาพ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการฝึกอบรมวิทยากรเพื่อทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในหลักสูตรครูผู้สอนประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งได้กำหนดฝึกอบรม จำนวน 18 รุ่น รุ่นละ 5 วัน กลุ่มเป้าหมายเป็นข้าราชการ พนักงาน บุคลากรในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนพี่น้องประชาชนที่มีความประสงค์เข้ารับการฝึกอบรม รวม 2,190 คน โดยโครงการฝึกอบรมวิทยากรเพื่อทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่นในครั้งนี้ เป็นการฝึกอบรมรุ่นแรก มีผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 127 ท่าน จากพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร ระยอง สระแก้ว จันทบุรี และตราด มีอายุสูงสุด 80 ปี และต่ำสุด 22 ปี ซึ่งตลอดการฝึกอบรมมีกิจกรรมการเรียนรู้แบบหลากหลาย มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการแสดงความคิดเห็น การระดมสมอง การฝึกปฏิบัติ และการนำเสนอ เพื่อเสริมองค์ความรู้ในการถ่ายทอดขยายผลให้กับพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัยในพื้นที่ เพื่อทำให้ประเทศชาติมีความมั่นคง ประชาชนมีความสุข ผ่านการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 53/2567 วันที่ 12 ม.ค. 2567