เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 67 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมพระพิพิธโภไคย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการรับฟังการนำเสนอผลงานออกแบบพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ ร่วมกับพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครนายก พะเยา จันทบุรี อุบลราชธานี สตูล และจังหวัดกาญจนบุรี ผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล (Video Conference) โดยได้รับเมตตาจากพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม พระพิพัฒน์วชิโรภาส เจ้าอาวาสวัดป่ามหาธีราจารย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุม โดยมีนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมการปกครอง ผู้แทนจากกรมการพัฒนาชุมชน ผู้แทนจากกรมที่ดิน ผู้แทนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล (Video Conference)
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการรับฟังการนำเสนอผลงานออกแบบพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ มีเป้าหมายเพื่อปฏิบัติบูชาในการสร้างพื้นที่ต้นแบบที่ช่วยให้ประเทศมั่นคง ประชาชนมีความสุข ด้วยการแก้ไขในสิ่งผิด สืบสานพระราชปณิธาน ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นและความปรารถนาของชาวมหาดไทยในการพัฒนาทำให้ทุกจังหวัดได้มีการพัฒนาพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งจะเป็นพื้นที่การเรียนรู้น้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จำนวนกว่า 40 ทฤษฎี มาประยุกต์ใช้ในพื้นที่ พร้อมด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้สู่การประยุกต์ใช้จนเป็นวิถีชีวิตในรูปแบบอารยเกษตร ซึ่งในส่วนของการขับเคลื่อนได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยในระยะแรก เป็นการดำเนินการใน 6 จังหวัดนำร่อง คือ นครนายก พะเยา จันทบุรี อุบลราชธานี สตูล และกาญจนบุรี เพื่อเป็นโครงการต้นแบบ และขยายผลไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยอาศัยทีมจังหวัด บูรณาการความร่วมมือขับเคลื่อนในการพัฒนาพื้นที่ เพื่อประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึงและยั่งยืน และยังพัฒนาพื้นที่เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามแนวพระราชดำริ “อารยเกษตร” และสอดคล้องกับงานที่ทางกระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการขับเคลื่อนกิจกรรมวันดินโลก ภายใต้แนวคิด “ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน” อีกด้วย
“สำหรับการออกแบบพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำรินั้น จะต้องมีการน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ได้พระราชทานไว้ในภาพฝีพระหัตถ์จิตอาสา Happy Family Happy Farmer เรื่องการขุดดิน ด้วยประโยคที่ว่า “Top Soil” การขุดดินลึกต้องแยกเป็นกองไว้ เพื่อให้ชั้นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดได้อยู่ด้านบน เป็นการขุดแบบปราณีต ส่งผลต่อการปลูกพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่ดินนั้น เป็นพื้นที่ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง มีป่าไม้ 5 ระดับ รวมทั้งต้องคำนึงถึงการประยุกต์ใช้เป็นพื้นที่สำหรับการออกกำลังกาย ทั้งการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน มีสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา มีสนามกิจกรรมจักรยานขาไถ มีพื้นที่สำหรับรองรับการจัดกิจกรรมเสือภูเขา BMX พัฒนาพื้นที่ของคลองไส้ไก่ คูคลองให้เป็นกีฬาทางน้ำ หรือเป็นพื้นที่ดูนกชมธรรมชาติได้ เพื่อเป็นชุมชนต้นแบบให้ทุกคนสามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เราสามารถแบ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ยังผลประโยชน์บนพื้นฐานความร่วมมือกันของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ให้สามารถจัดการแบ่งสรรปันส่วนให้เหมาะสมกับภูมิสังคม พร้อมช่วยกันสืบเสาะดูความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ว่ามีความต้องการอย่างไร เพื่อที่จะพัฒนา ต่อยอด ให้ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า ในการดำเนินการในแต่ละพื้นที่นั้น ขอให้ทุกท่านได้คำนึงถึงความเป็นอารยสถาปัตย์ ออกแบบเพื่อให้ทุกคนได้มีสภาพแวดล้อมที่ดี ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อาทิ ทำสะพานหรือทางข้ามคลองไส้ไก่ที่มีความวิจิตรงดงามเหมาะสมกับทุกคนทุกช่วงวัย ในส่วนของเรื่องการบำรุงดิน อาจจะเพิ่มเติมในเรื่องของธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิดในบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่แห้งแล้ง เพื่อให้มีการเก็บเม็ดฝนทุกเม็ดลงใต้ดินควบคู่กับการเก็บน้ำไว้ในแก้มลิง เพื่อดูดซับน้ำไม่ให้ไหลออกจากพื้นที่ และมีการขนย้ายมูลสัตว์ในพื้นที่ พร้อมเศษวัชพืชต่าง ๆ นำไปเพิ่มพูนอินทรีย์ธาตุให้กับดินให้มาก ๆ ในขณะเดียวกันต้นไม้ในพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีความอุดมสมบูรณ์หรือทุรกันดารก็ควรเลือกใช้ต้นไม้ที่มีการตรึงไนโตรเจน อาทิ ต้นก้ามปู (จามจุรี) ต้นกระถินณรงค์ หรือพันธ์ุไม้ประเภทที่มีส่วนช่วยในการบำรุงดิน และหากต้องการให้มีความสวยงามในพื้นที่ ก็ให้มีต้นไม้ประเภทปอเทือง ถั่วบราซิล รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในการสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา เช่น การตั้งชุมนุม ชมรม อาทิ ชมรมเศรษฐกิจพอเพียง ชมรมอารยเกษตร เพื่อให้ชมรมดังกล่าวนี้มีวัตถุประสงค์ในการน้อมนำเอาแนวพระราชดำริอารยเกษตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และประการสุดท้ายในเรื่องของการยกระดับการพัฒนา ด้วยการทำให้บุคคลที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลเข้ามาเป็นสมาชิกเพื่อให้บุคคลเหล่านั้นได้มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแต่ละพื้นที่ได้ เพื่อเป็นการยกระดับองค์ความรู้ให้กับบุคคลที่อยู่ห่างไกล
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการพัฒนา ในแต่ละจังหวัดสามารถย้อนวิถีชีวิตที่เกี่ยวพันกับพระแม่โพสพ พระแม่ธรณี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำยุ้งฉาง ประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมอันดีงาม ในการทำมาหากินและการพึ่งพาตนเอง อาทิ การลงแขก การใช้ควายไถนา ก็จะเป็นสีสันเพิ่มเติม รวมทั้งทำให้เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ทางประเพณีวัฒนธรรม ดึงดูดใจให้ผู้คนเข้ามาเยี่ยมชม และเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับพี่น้องประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย
“ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมแรง ร่วมใจกัน ช่วยกันขับเคลื่อนสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรมในทุกพื้นที่ ซึ่งอาจจะมีทั้งแผนปฏิบัติการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แต่การเริ่มขับเคลื่อนในทุก ๆ เรื่องจะประสบความสำเร็จได้นั้น พวกเราต้องลงมือทำทันที ต้อง Action now เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งที่ดี เพื่อเป็นการ Change for Good ให้เกิดมรรคผลต่อพี่น้องประชาชน ด้วย “ทีมงาน” ที่เข้มแข็ง เพื่อช่วยกันออกแบบพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ อันจะเป็นการทำให้พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 60/2567 วันที่ 12 ม.ค. 67
