วันนี้ (8 ก.พ. 67) นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า เปิดเผยว่า คณะสงฆ์ตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า ร่วมกับฝ่ายปกครอง เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการวัดไม่ทิ้งโยม ถนนสายบุญ นำโดยพระปลัดดอกดิน นริสฺสโร เจ้าอาวาสวัดลาดยาวใหม่ อำเภอวังเจ้า เจ้าคณะตำบลเชียงทอง รับบิณฑบาต ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และเครื่องอุปโภค-บริโภค ในหมู่ที่ 10 บ้านใหม่ชัยมงคล ตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า และนำของที่ได้จากการรับบิณฑบาต ไปให้แก่ผู้ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ ซึ่งเป็นการบูรณาการตามหลักการทรงงานศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคณะสงฆ์ตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า ร่วมกับอำเภอวังเจ้า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคี ในพื้นที่อำเภอวังเจ้า ได้ดำเนินการโครงการฯ อย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 6 ภายใต้แนวคิด “สานต่อ ก่อความคิด พัฒนาชีวิต” และได้รับความชื่นชม และการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า กล่าวว่า โครงการวัดไม่ทิ้งโยม ถนนสายบุญ ของคณะสงฆ์ตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตำบลเชียงทอง ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2561 พระปลัดดอกดิน นริสฺสโร ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลเชียงทอง หลวงพ่อท่านได้เมตตาเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ แล้วพบว่าครัวเรือนจำนวนมากต้องการความช่วยเหลือในด้านค่าใช้จ่ายในครัวเรือน มีทั้งผู้สูงอายุที่มีรายได้แค่จากการรอรับเบี้ยผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ผู้พิการ และเด็กที่มีคนในครอบครัวเสพยาเสพติด ทำให้ขาดโอกาสทางการศึกษา ซึ่งพระปลัดดอกดินได้ร่วมกับคณะสงฆ์ในพื้นที่ และภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะฝ่ายปกครอง จัดทำโครงการวัดไม่ทิ้งโยม ถนนสายบุญ โดยจะรับบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม เงินบริจาค และเครื่องอุปโภค-บริโภค เพื่อไปช่วยเหลือผู้เดือดร้อนและผู้ยากไร้ในพื้นที่ ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากในช่วงที่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 พี่น้องประชาชนทุกคนลำบาก ทางวัดเองก็ลำบาก แต่จำเป็นจะต้องลุกขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ลำบากกว่า ทำให้สามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้เป็นจำนวนมาก และในปัจจุบันทางคณะสงฆ์มีเครือข่ายผู้สนับสนุนในพื้นที่จำนวนมาก และยังมีการรับบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้ง ฯลฯ มาอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการประชุมคณะสงฆ์ประจำตำบลทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง
นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดโครงการดังกล่าว เพื่อสนับสนุนนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างพลังภาคีเครือข่าย ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) โดยเฉพาะภาคผู้นำศาสนา ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืนร่วมกับฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินการ “โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข” ร่วมกับฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม และภาคีเครือข่าย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมทำให้วัดซึ่งเป็นศาสนสถานได้เป็นสถานที่ศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนและประชาชน เป็นสถานที่ศึกษาหาความรู้ เป็นสัปปายะสถานสำหรับประชาชน รวมทั้งเป็นสถานที่ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน และเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการบูรณาการความร่วมมือ ในรูปแบบของพลัง “บวร” คือ บ้าน วัด ราชการ
นายศักดิ์ดา สำเภาเงิน นายอำเภอวังเจ้า กล่าวทิ้งท้ายว่า อำเภอวังเจ้า มีเป้าหมายในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน และสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยการขยายเครือข่ายการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ และสร้างกลไกที่มีความยั่งยืน สามารถขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง โดยการทำงานแบบยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และใช้ทุนทางวัฒนธรรม “ครอบครัว ศาสนา สถานที่ราชการ หรือสถานศึกษา” หรือ บ้าน วัด ราชการ หรือ “บวร” สร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อความมั่นคงในระดับชุมชนหมู่บ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ภาครัฐต้องเป็นส่วนที่กระตุ้น ปลุกเร้า และจับมือให้ทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยลงมือลงแรงไปด้วยกัน ซึ่งสิ่งที่เราทุกคนจะได้รับนอกจากจะเป็นความสุขทางใจแล้ว ยังช่วยทำให้คนในชุมชนของเรามีความเข้มแข็งมั่นคงอีกด้วย
#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 212/2567 วันที่ 8 ก.พ. 67