น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 67 เวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 2 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ครั้ง 1/2567 โดยมี นายกิตติรัตน์ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นางสาวจีรภัทร์ การประเสริฐกิจ กรรมการร่างกฎหมายประจำเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงหรือหน่วยงาน อาทิ ผู้แทนอัยการสูงสุดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเะอการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้มีความมั่นคง ปลอดภัย และได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการติดตามการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการนำลูกหนี้และเจ้าหนี้มาเข้าสู่กระบวนการไกล่หนี้ ตลอดจนให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงสถาบันทางการเงิน เข้ามาให้การความช่วยเหลือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และนำเข้าสู่หนี้ในระบบ ซึ่งนายกรัฐมนตรียังกรุณาให้กระทรวงการคลัง และสำนักงานอัยการ เข้ามาร่วมในการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จึงทำให้เรามีองคาพยบที่ครบถ้วน สามารถดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างราบรื่น
“จากการที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจราชการร่วมกิจกรรมการจัด “ตลาดนัดแก้หนี้” ในหลายพื้นที่ ได้เห็นถึงกระบวนการไกล่เกลี่ยร่วมกันของลูกหนี้และเจ้าหนี้ ซึ่งบางกรณีได้เห็นว่าแท้จริงเจ้าหนี้ไม่ได้เป็นผู้ร้ายทั้งหมด ลูกหนี้เป็นผู้ร้ายก็มี และจากการได้รับฟังการปฏิบัติงานจากเจ้าหน้าที่รัฐ พบว่าบางจุดยังมีอุปสรรคอยู่ ทั้งด้านข้อมูลจากการลงทะเบียนที่ไม่ครบถ้วน หรือการจะดำเนินคดีกับบุคคล ซึ่งต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยยังเน้นย้ำเรื่องของการให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกันอย่างจริงจัง ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อัยการตำรวจ ทหาร รวมถึงสถาบันทางการเงินทุกแห่ง ที่ได้บูรณาร่วมกันให้การช่วยเหลือประชาชนทำให้เรามีความหวังในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งแม้ว่าทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่าหนี้ยังคงมีอยู่และไม่ได้หายไปไหน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือการเข้าสู่หนี้ในระบบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในการป้องกันมิให้เกิดการข่มขู่ กรรโชก การทวงหนี้ที่ขัดต่อกฎหมายและไม่เป็นธรรม หากลูกหนี้และเจ้าหนี้ตกลงปลงใจกันได้ก็สามารถแก้ไขได้ทันทีในส่วนที่ตกลงกันไม่ได้ก็ต้องดำเนินคดี ซึ่งนั่นเป็นหัวใจสำคัญที่เราดำเนินการอยู่ ทำให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเป็นหนี้นอกระบบ ได้เข้าสู่หนี้ในระบบของสถาบันทางการเงินอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ดังนั้น หากเราทำได้ในแนวเดียวกันนี้ถือว่าเราประสบความสำเร็จ” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มีนโยบายให้กระทรวงการคลังเข้ามาร่วมในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ได้ปลายสำคัญที่สุดคือ สถาบันทางการเงินเข้ามาขับเคลื่อนจนบรรลุผลสำเร็จได้ เป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชนได้เป็นรูปธรรมช่วยสร้างมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ให้สามารถดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการให้ความช่วยเหลือทางด้านอนุมัติสินเชื่อ ขอให้ท่านกิตติรัตน์ ณระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้เมตตาประสานทางกระทรวงการคลัง และทางสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดำเนินการตามที่เราได้หารือร่วมกันในการประชุมนี้โดยเฉพาะเรื่องการพิจารณาการปรับปรุงอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกหนี้ โดยให้กลุ่มที่ผ่านการไกล่เกลี่ยหรือตรวจสอบข้อเท็จจริงจะได้รับการพิจาณาสินเชื่อทุกราย (100%) โดยให้ความสำคัญกับผู้ที่มีอาชีพและรายได้ เพื่อให้ประชาชนได้มีสินเชื่อไปปิดหนี้นอกระบบ และดำเนินการผ่อนจ่ายกับสถาบันการเงินของรัฐโดยมีเงื่อนไขในการให้ความร่วมมือและดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และขับเคลื่อนตามพันธกิจของกระทรวงมหาดไทย ในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้ประชาชนอย่างอุดมสมบูรณ์พูลสุข
ทางด้าน นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ในส่วนของการแก้ไขปัญหาหนี้ในระบบได้มีความคืบหน้าไปพอสมควรทั้งในส่วนของสินเชื่อรายย่อยของธนาคารออมสิน ธกส. หนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้เงินกู้สวัสดิการข้าราชการ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อเช่าซื้อ บัตรเครดิต ซึ่งส่วนของหนี้นอกระบบถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเป็นไปอย่างครอบคลุม โดยนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญ ติดตามพร้อมให้การสนับสนุนเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ประชาชนอย่างใกล้ชิด
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ได้มีมติเห็นชอบให้ทบทวนตัวชี้วัดการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน มีการเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม ตลอดจนเห็นชอบให้มีการการบูรณาการและประสานข้อมูลการปฏิบัติ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การบริหารจัดการฐานข้อมูลการลงทะเบียนและบูรณาการระหว่างหน่วยงานภายหลังการดำเนินการไกล่เกลี่ยกับสถาบันการเงิน
#WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 215/2567 วันที่ 8 ก.พ. 67